หน้าหลัก > ข่าวสารและความรู้ > แจกฟรี!! สิ่งที่ต้องรู้ก่อนกินยาคุม "รักษาสิว"
แจกฟรี!! สิ่งที่ต้องรู้ก่อนกินยาคุม "รักษาสิว"
แจกฟรี!! สิ่งที่ต้องรู้ก่อนกินยาคุม "รักษาสิว"
15 Sep, 2020 / By w1512258
Images/Blog/wpB6qVFR-Untitled-1.jpg

สงสัยกันมั้ยคะว่า...ทำไมหลายคนเลือกรักษาสิวด้วยวิธีกินยาคุมกำเนิด

ซึ่งยาคุมกำเนิดมีส่วนช่วยรักษาสิวได้จริงค่ะ ได้ยินแบบนี้หลายคนที่มีปัญหาสิวอยู่คงอยากรีบไปหาซื้อมากินกันแล้วใช่มั้ยคะ แต่....เดี๋ยวก่อนค่ะ!!

ยาคุมจะได้ผลเฉพาะกับสิวบางประเภทเท่านั้น เพราะฉะนั้นก่อนที่จะตัดสินใจเลือกรักษาสิวด้วยยาคุม พี่วิวมีคำแนะนำเกี่ยวกับสิ่งที่ต้องรู้ก่อนกินยาคุมรักษาสิวมาฝากค่ะ

แชร์เก็บไว้เป็นความรู้หรือแท็กเพื่อนมาอ่านกันได้เลย >>>

 

 

ยาคุมกำเนิดสามารถรักษาสิวฮอร์โมนได้เท่านั้น

เพราะยาคุมจะมีฤทธิ์ยับยั้งการทำงานของฮอร์โมนที่ไปกระตุ้นให้ต่อมไขมันทำงานเยอะผิดปกติ ยาคุมกำเนิดจึงช่วยควบคุมฮอร์โมนให้สมดุลกัน ทำให้โอกาสในการเกิดสิวฮอร์โมนน้อยลง

**ยาคุมขึ้นทะเบียนเป็นยาอันตราย ดังนั้นห้ามซื้อยารับประทานเองเด็ดขาด ต้องจ่ายโดยแพทย์ที่คลินิก/รพ. หรือจ่ายโดยเภสัชกรที่ร้านยาเท่านั้น แล้วต้องได้รับคำแนะนำที่ถูกต้อง และเห็นสมควรแล้วว่าสิวจากฮอร์โมนไม่สมดุลจึงใช้การทานยาคุมกำเนิดมาช่วยรักษา

 

ตามชนิดของฮอร์โมนสามารถแบ่งออกเป็น 3 กลุ่มค่ะ ได้แก่

• กลุ่ม Diane-35, Preme, Dafne 35 ชนิด 21เม็ด กลุ่มนี้ฮอร์โมนจะค่อนข้างสูงกว่าพวก yaz yasmin เหมาะกับ สิวเห่อมากๆ ราคาไม่แพง ทานแล้วจะดูมีน้ำมีนวลขึ้น

• กลุ่ม Yaz, Yasmin, Melodia กลุ่มนี้จะมีฮอร์โมนต่ำ ลดอาการบวมน้ำ ทานแล้วอ้วนน้อยกว่ากลุ่มข้างบน ราคาจะสูงกว่ากลุ่มแรก Yaz มี28เม็ด ส่วน Yasmin และ Melodiaมี 21 เม็ด

• กลุ่ม Oilezz จะเป็นชนิด 22 เม็ด

และยังมียาคุมตัวยาอื่นๆอีกมากมาย สามารถสอบถามเภสัชกรที่ร้านยาได้เลยค่ะ แต่โพสนี้เพียงยกตัวอย่างเป็นความรู้หลักๆเท่านั้น ห้ามซื้อยานี้รับประทานเอง ยานี้ต้องจ่ายโดยแพทย์ที่ รพ./คลินิก หรือจ่ายโดยเภสัชกรที่ร้านยาเท่านั้นนะคะ

 

 

 

ยาคุมกำเนิดต้องทานประมาณ 3 แผง และทานต่อเนื่องอย่างน้อย 6 แผงขึ้นไปถึงจะเห็นผลในการรักษาสิวฮอร์โมนค่ะ ไม่ใช่ทาน7วันแล้วสิวจากฮอร์โมนจะหายเลย

**ยาคุมขึ้นทะเบียนเป็นยาอันตราย ดังนั้นห้ามซื้อยารับประทานเองเด็ดขาด ต้องจ่ายโดยแพทย์ที่คลินิก/รพ. หรือจ่ายโดยเภสัชกรที่ร้านยาเท่านั้น แล้วต้องได้รับคำแนะนำที่ถูกต้อง และเห็นสมควรแล้วว่าสิวจากฮอร์โมนไม่สมดุลจึงใช้การทานยาคุมกำเนิดมาช่วยรักษา

 

 

แม้ยาคุมกำเนิดจะมีส่วนช่วยในการรักษาสิวได้ แต่ก็มีผลข้างเคียงด้วยเช่นกันค่ะ

ขอแยกชัดเจนเป็นกลุ่มๆตามชนิดของฮอร์โมน ให้เข้าใจง่ายๆ ดังนี้


• กลุ่ม Diane-35, Preme, Dafne 35 จะทำให้บวมน้ำ น้ำหนักขึ้น คลื่นไส้ อาเจียน จึงเหมาะกับคนรูปร่างผอม ทานแล้วจะดูมีน้ำมีนวลขึ้น

• กลุ่ม Yaz, Yasmin, Melodia จะมีผลข้างเคียงน้อย ส่งผลให้คลื่นไส้อาเจียนน้อยกว่า ไม่ทำให้น้ำหนักตัวเพิ่ม แต่ราคาจะสูงกว่ากลุ่มแรก

• กลุ่ม Oilezz จะทำให้บวมน้ำ วิงเวียนศีรษะ คลื่นไส้ได้

*ยาคุมกำเนิดโดยทั่วไปจะมีทั้งฮอร์โมนเอสโตรเจนและโปรเจสโตเจน ซึ่งยาคุมกำเนิดบางยี่ห้อจะมีฮอร์โมนเอสโตรเจนในปริมาณที่สูง จึงไปกระตุ้นการสร้างเม็ดสีเมลานินทำให้เกิดฝ้า-กระตามมาได้ด้วยค่ะ

 

กรณีต่อไปนี้ ห้ามกินยาคุมเพื่อรักษาสิว


-ยังไม่มีประจำเดือน


-มีแพลนจะตั้งครรภ์ กำลังตั้งครรภ์หรือกำลังให้นมอยู่


-มีประวัติเป็นโรคหัวใจ โรคเบาหวาน โรคตับ หรือความดันโลหิตสูง


-มีปัญหาการแข็งตัวของหลอดเลือดผิดปกติ

และมีข้อห้ามอื่นๆอีกมากมาย ดังนั้นยาคุมขึ้นทะเบียนเป็นยาอันตราย ดังนั้นห้ามซื้อยารับประทานเองเด็ดขาด ต้องจ่ายโดยแพทย์ที่คลินิก/รพ. หรือจ่ายโดยเภสัชกรที่ร้านยาเท่านั้น แล้วต้องได้รับคำแนะนำที่ถูกต้อง และเห็นสมควรแล้วว่าสิวจากฮอร์โมนไม่สมดุลจึงใช้การทานยาคุมกำเนิดมาช่วยรักษา

 

 

[ทางเลือกใหม่ ไม่ใช้ยา] แต่เป็นสกินแคร์ที่ปลอดภัย ไม่ผสมน้ำหอม แอลกอฮอล์ ไม่มีพาราเบน ไม่ส่งผลข้างเคียง เหมาะสำหรับสิวอุดตัน สิวอักเสบ ช่วยลดรอยสิว บำรุงผิวให้แข็งแรง ลดฝ้ากระ เติมเต็มคอลลาเจนช่วยให้หลุมสิวดูตื้นขึ้น มีสุขภาพผิวที่ดี

จึงครอบคลุมทุกการดูแลผิว ช่วยรักษาสิวอย่างตรงจุด ผิวบอบบางแพ้ง่ายหรือขุ่นแม่ตั้งครรภ์ก็สามารถใช้ได้

Like