หน้าหลัก > ข่าวสารและความรู้ > อาบน้ำเพื่อสุขภาพ ต้องอาบอย่างไร…ถึงจะเหมาะสม
อาบน้ำเพื่อสุขภาพ ต้องอาบอย่างไร…ถึงจะเหมาะสม
อาบน้ำเพื่อสุขภาพ ต้องอาบอย่างไร…ถึงจะเหมาะสม
11 Feb, 2023 / By Ink
Images/Blog/4xtI0Vk7-D98B5080-02A8-463D-A1E9-7B5DEDF82ED3.png

ใครว่าการอาบน้ำนั้นไม่สำคัญ เพราะการอาบน้ำนั้นส่งผลต่อสุขภาพเราโดยตรง ยิ่งเราอยู่เมืองร้อนและไม่ยอมอาบน้ำ อย่างน้อยสิ่งที่จะเกิดขึ้นก็คือกลิ่นตัว และการอาบน้ำก็ไม่ใช่แค่การทำความสะอาดร่างกายเท่านั้น แต่การอาบน้ำที่ดียังส่งผลให้สุขภาพคุณดีขึ้นด้วย มาดูกันว่าการตอน อาบน้ำเพื่อสุขภาพ…ต้องอาบอย่างไรจึงจะเหมาะสม?

อุณหภูมิของน้ำนั้นสำคัญ

การอาบน้ำเย็นมากๆ จะช่วยเพิ่มความสดชื่นให้กับร่างกายได้ และยังสร้างความผ่อนคลาย ช่วยให้ร่างกายที่เมื่อยล้า อ่อนเพลียเกิดภาวะตื่นตัว แต่แท้แล้ว การอาบน้ำเย็นมากๆ อาจส่งผลเสียต่อร่างกายได้เช่นเดียวกับการอาบน้ำร้อนจัด เนื่องจากน้ำร้อนจะส่งผลทำให้ผิวแห้งเสีย และก่อให้เกิดปัญหากับร่างกายภายในได้นั่นเอง ดังนั้น การอาบน้ำที่ถูกวิธี จึงต้องมาพร้อมอุณหภูมิของน้ำที่เหมาะสมเป็นหลักจึงจะปลอดภัยต่อร่างกายเป็นที่สุด

 

อุณหภูมิที่เหมาะสมควรอยู่ระหว่าง 27-34 องศาเซลเซียส ซึ่งถือเป็นจุดที่ไม่ร้อนหรือเย็นมากเกินไป การอาบน้ำอุ่นด้วยอุณหภูมิระดับนี้จะช่วยชำระล้างร่างกายได้หมดจดมากขึ้น เพราะความอุ่นของน้ำจะทำหน้าที่เปิดรูขุมขนเพื่อล้างของเสียหรือสิ่งสกปรกที่คั่งค้างหรืออุดตันให้หลุดออกมา ทำให้ผิวหายใจได้ดีมากขึ้น และยิ่งหากได้อาบน้ำอุ่นก่อนนอน ก็จะเป็นผลดีต่อระบบประสาท ทำให้นอนหลับได้ง่ายมากขึ้นด้วย

หากจำเป็นต้องอาบน้ำเย็นก็ควรอาบในอุณหภูมิ 21-27 องศาเซลเซียส เพราะน้ำอุณหภูมิระดับดังกล่าวถือเป็นอุณหภูมิที่ร่างกายยังพอรับได้ และเป็นระดับที่เหมาะสมในการกระตุ้นการไหลเวียนเลือดได้ดี ช่วยปลุกเร้าประสาทจากความอ่อนล้า ดีต่อระบบทางเดินหายใจ ช่วยทำให้ร่างกายเกิดภูมิต้านทาน ไม่เป็นหวัดง่ายหรือเป็นโรคภูมิแพ้ 

 

อาบน้ำเพื่อสุขภาพต้องทำอย่างไร?

  1. อาบน้ำเย็นในตอนเช้า เพื่อให้ร่างกายรู้สึกสดชื่น ตื่นตัว พร้อมเริ่มวันใหม่
  2. อาบน้ำอุ่นในตอนกลางคืน เพื่อคลายความเครียดสะสมมาทั้งวัน และช่วยให้นอนหลับได้ดี
  3. หากต้องการปลุกร่างกายให้สดชื่น สามารถใช้วิธีอาบน้ำอุ่นและอาบน้ำเย็นสลับกัน 10 นาที เพื่อกระตุ้นระบบหมุนเวียนโลหิตในร่างกาย
  4. ควรเริ่มจากปลายเท้าขึ้นไปกลางลำตัวเพื่อให้ร่างกายได้ปรับอุณหภูมิตัวเองก่อน และป้องกันการช็อคหมดสติ และอาการวูบฉับพลันระหว่างอาบน้ำ
  5. หลังออกกำลังกายควรรอครึ่งชั่วโมงก่อนอาบน้ำ
  6. ไม่ควรอาบน้ำหลังกินอาหารทันที เพราะอาจทำให้อาหารไม่ย่อย ควรรอไม่ต่ำกว่า 1-2 ชั่วโมง

 

ให้จำง่ายๆ เลยนั้นคือ อาบน้ำเย็นตอนเช้าเพื่อให้ร่างกายตื่น อาบน้ำอุ่นตอนกลางคืนเพื่อผ่อนคลายความเครียด ช่วยให้ร่างกายได้ผ่อนคลายมากขึ้น แต่ถ้าให้ดีสำหรับสาวๆ ควรอาบน้ำอุ่นสลับกับน้ำเย็น เพื่อให้ผิวคงความชุ่มชื่นและเต้งตึง และก็ควรให้ความใส่ใจในการเลือกผลิตภัณฑ์อาบน้ำด้วยเช่นเดียวกัน ให้เลือกสูตรที่มีความอ่อนโยนต่อผิว ไม่ทำร้ายเกราะป้องกันผิวเดิมตามธรรมชาติ เลี่ยงสารทำความสะอาดที่มีความรุนแรงอย่าง SLS/SLES และควรปราศจากสารก่อการระคายเคืองต่างๆ หรือมีสารก่อการระคายเคืองต่ำ ไม่ว่าจะเป็นน้ำหอม แอลกอฮอล์ สี สารกันเสีย และสารอื่นที่อาจทำให้เกิดอาการแพ้

 

ทางที่ดีควรเลือกสบู่อาบน้ำที่มีส่วนผสมของสารสกัดจากเปลือกมังคุดธรรมชาติ และ Sulfur เพื่อช่วยลดการอักเสบของรูขุมขน และมีฤทธิ์ต่อต้านเชื้อแบคทีเรียได้อย่างอ่อนโยน หรือควรเลือกสบู่อาบน้ำที่ข้างบรรจุภัณฑ์เขียนว่า “Hypoallergenic” สำหรับผิวบอบบางแพ้ง่ายอย่าง Welpano Body Acne Soap  ซึ่งเป็นสบู่ที่ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ให้กับท่ายที่มีปัญหาสิวที่ขึ้นตามตัวหรือที่อัพชื้น เช่น คอ หลังหู คาง หน้าอก แผ่นหลัง โดยจะช่วยฆ่าเชื้อ และทำให้ปราศจากเชื้อ อีกทั้งยังทำให้ผิวหอมอย่างเป็นธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป้นเรื่องของสิว ผด แพ้ ตามตัว ก็สามารถช่วยแก้ปัญหาได้หมดเลยค่า

Like