หน้าหลัก > ข่าวสารและความรู้ > วิธีสังเกตครีมอันตราย เช็กให้ดีก่อน "หน้าพัง"
วิธีสังเกตครีมอันตราย เช็กให้ดีก่อน "หน้าพัง"
วิธีสังเกตครีมอันตราย เช็กให้ดีก่อน "หน้าพัง"
14 Oct, 2023 / By aomsin
Images/Blog/BBnU77Vo-244896.jpg

ปัจจุบัน ครีมอันตราย/ครีมเถื่อน มีจำนวนเพิ่มมากขึ้นในทุกวัน และวางขายกันอย่างโจ่งแจ้ง สามารถหาซื้อได้อย่างง่ายดาย โดยเฉพาะในช่องทางโซเชียล ชอปปิ้งออนไลน์ต่างๆ ด้วยการโฆษณาและการอวดอ้างสรรพคุณที่เกินจริง ทำให้มีคนไม่น้อยที่ให้ความสนใจ หลงเชื่อและซื้อมาใช้ จนก่อให้เกิดผลเสียกับผิวและร่างกายของตนเอง ไม่ว่าจะเป็นอาการแพ้ต่างๆ  หรือ สารพิษซึมเข้าสู่เข้าสู่เซลล์ผิว สั่งสมให้เป็นโรคอันตรายอื่นๆ ตามมาได้

ปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์ในการดูแลผิวมากมาย หลากหลายแบรนด์ เพราะฉะนั้นก่อนที่เราจะเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ สกินแคร์ หรือครีมต่างๆ จึงควรเช็กและสังเกตให้ดีว่าครีมนั้นๆ มีความน่าเชื่อถือ ใช้แล้วปลอดภัย ส่งผลอันตรายต่อร่างกายหรือไม่ ซึ่งหากใครไม่ทราบว่าจะตรวจเช็กหรือมีวิธีการสังเกตได้อย่างไร 

 

วันนี้ทางเวลพาโน่จะมาบอกเคล็ดลับการตรวจเช็กเบื้องต้น และจะป้องกันตนเองไม่ให้เลือกซื้อครีมอันตรายได้อย่างไร ถ้าพร้อมแล้ว ตามมาดูกันเลยค่ะ

ครีมอันตราย ประกอบด้วยสารอะไรบ้าง?

 

1. สารปรอท

มักเป็นส่วนผสมที่พบได้ในครีมที่มีสรรพคุณบำรุงผิวขาว เนื่องจากสามารถช่วยทำให้สีผิวขาวขึ้นได้อย่างเร่งด่วน เป็นสารที่ส่งผลข้างเคียงกับร่างกายค่อนข้างเยอะ ไม่ว่าจะเป็นอาการแพ้ ผื่นแดง ผิวหน้าดำ ฝ้าถาวร ผิวบางลง หากใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีสารปรอทอย่างต่อเนื่อง อาจทำให้สารปรอทสะสมตามผิวหนัง ซึมเข้าสู่กระแสเลือด เสี่ยงต่อการเกิดโรคตับและไตอักเสบ โรคโลหิตจาง ทางเดินปัสสาวะอักเสบ สำหรับสตรีมีครรภ์ หากใช้ครีมที่มีสารปรอท ร่างกายจะดูดซึมเข้าสู่ทารก ทำให้ทารกสมองพิการและบกพร่องทาสติปัญญาได้

 

2. สารไฮโดรควิโนน

เป็นสารที่ห้ามใช้ในเครื่องสำอาง ตามประกาศของ อย. มักพบการลักลอบใส่ในครีมหน้าขาว ลดฝ้า ลดกระ เพื่อให้ได้ผลเร็วเร่งด่วน สำหรับผลข้างเคียงที่จะเกิดขึ้นหากใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีสารได้แก่ ผิวอ่อนแอ ผิวแดง ลอก ใช้อะไรก็ระคายเคืองง่าย นอกจากนี้ยังส่งผลให้เกิดฝ้าเส้นเลือด เส้นเลือดใต้ผิวหนังขยายตัว ส่งผลให้หากโดนความร้อน ผิวหน้าจะแดง ตกบ่ายก็จะมีอาการดำคล้ำ และยังเสี่ยงต่อผิวหน้าด่างถาวร หรือภาวะ Leukoderma เกิดจาก tyrosine ที่คั่งไปทำลายเซลล์สร้าง melanin เมื่อ melanin ไม่มี ผิวหน้าจึงด่างค่ะ

 

3. สารสเตียรอยด์

เป็นสารที่ถูกนำมาใช้ใส่ในผลิตภัณฑ์จำนวนมาก หากนำมาใช้เป็นส่วนผสมของครีมอย่างไม่ถูกวิธี อาจเสี่ยงทำให้ผิวหน้าของผู้ใช้บางลง ไวต่อมลภาวะ มีผดผื่น สิวขึ้น ไวต่อแสงแดดมากเกินไป และถ้าใช้ไปนานๆ ต่อเนื่อง จะทำให้ผิวแตกลาย เกิดสิวเรื้อรังรักษายากค่ะ

6 สัญญาณบ่งบอกครีมอันตราย

 

🔺 ครีมที่มีคุณสมบัติครอบจักรวาล

โดยเฉพาะที่ระบุว่าสามารถรักษาปัญหาผิวได้ทุกอย่าง เช่นสิว ฝ้า กระ จุดด่างดำ หน้ากระจ่างใส ผิวชุ่มชื้น ทำให้ผิวดูดีขึ้นได้อย่างรวดเร็ว เห็นได้ภายใน 7 วัน ซึ่งจะสามารถเห็นได้ทั่วไปตามท้องตลาดและทางออนไลน์ และที่สำคัญหลายๆ คนที่ไปใช้แล้วเกิดผลข้างเคียง เกิดอาการสิวเห่อ ผิวหน้าพังได้ค่ะ 

 

🔺 ครีมที่มีสีผิดไปจากสีขาว/ใส

นับเป็นข้อที่สังเกตได้ง่ายมากๆ สามารถสังเกตได้ด้วยตาเปล่า ครีมที่มีส่วนผสมของสารอันตราย จะเป็นครีมที่ใช้มีสีสันที่มันแปลกไปจากปกติ ส่วนใหญ่ครีมที่มีสีสันนั้นมักจะมีสารสเตียรอยด์ โดยเฉพาะ สีส้ม สีเขียว ที่อาจจะแอบอ้างว่าเป็นสีที่ได้จากกลุ่มตระกูลพืชอย่าง แครอท ชาเขียว ซึ่งหากพบครีมที่มีลักษณะดังกล่าวเป็นข้อบ่งชี้ให้ฉุกคิดเลยว่าครีมนี้มีส่วนผสมของสารอันตรายผสมอยู่นั่นเอง

 

🔺 ครีมที่มีกลิ่นน้ำหอมแรงผิดปกติ (กลิ่นหอมไปทางฉุน)

ก็แน่นอนว่ากลิ่นที่แรงเตะจมูกก็เป็นข้อจับผิดได้ง่ายไม่ต่างจากสีของเนื้อครีม เนื่องจากว่าครีมอันตราย บางชนิดนั้นอาจมีสารที่ส่งกลิ่นรุนแรงเลยทำให้การผสมน้ำหอมเข้าไปก็จะช่วยไปกลบกลิ่นของสารอันตรายนั้นๆ ได้

 

🔺 เนื้อครีมมีลักษณะคล้ายเม็ดทราย (แต่ไม่ใช่เม็ดบีดส์)

สามาถสังเกตได้ด้วยตาเปล่า จะพบว่าเนื้อสัมผัสของครีมอันตราย จะมีเนื้อสัมผัสที่มีความหยาบ คล้ายมีเม็ดทรายเล็กๆ แต่ต้องบอกก่อนว่าไม่ใช่เม็ดบีดส์ ซึ่งเม็ดบีดส์นั้นจะมีก็ต่อเมื่อครีมชนิดนั้นเป็นครีมหรือโฟมล้างหน้าซะมากกว่า ในเนื้อครีมบำรุงจะไม่มี

 

🔺 หยุดใช้ครีมแล้วสิวบุก (สิวขึ้น) มีผลข้างเคียงตามมา

และอีกข้อสำคัญก็คือ หลังจากที่เราใช้ครีมไปแล้วสักพัก หรือหยุดใช้ครีมดังกล่าว จากที่ใช้แล้วหน้าขาวใส เรียบเนียน กลับเกิดอาการหน้าเห่อ สิวเห่อ ผดผื่นแพ้ เป็นฝ้า กระ จุดด่างดำขึ้น หน้าแสบแดง บ่งบอกได้ว่าครีมนั้นมีส่วนผสมของสารอันตราย เนื่องจากว่าครีมที่ปลอดภัยจริงๆ เลิกใช้จะไม่มีปัญหา และไม่ทำให้ผิวเกิดเป็นสิว ยกเว้นประเภทครีมที่ทำให้เกิดการอุดตันเวลาที่ใช้ไปแล้วจะเกิดสิวเพิ่มมากขึ้น แต่ถ้าใช้ไปแล้วสักพักแล้วหน้ากระจ่างใส แต่พอหยุดใช้ไปแล้วสิวเกิดเห่อเยอะขึ้นแบบนี้มีสารสเตียรอยด์แน่นอนค่ะ

อาการถอนยาใน ครีมอันตราย มีอะไรบ้าง?

ปัญหาผิวอันดับหนึ่ง ที่ทำให้หลายคนกังวลใจว่าลักษณะสิวที่เป็นนั้นใช่สิวติดสารสเตียรอยด์หรือไม่? ซึ่งอาการสิวติดสารสเตียรอยด์มักจะเกิดขึ้นหลังจากหยุดครีมชนิดนั้นๆ อย่างน้อย 7-14วัน แต่อาการจะหนักขึ้นก็ประมาณ1-2เดือนหลังจากที่หยุดครีมอันตรายนั้นๆ โดยอาการเหล่านี้จะเรียกว่า "อาการถอนยา" ซึ่งจะมีอาการคร่าว ๆ 5 ข้อด้วยตามภาพกันดังนี้เลยค่ะ

ป้องกันตนเองจากครีมอันตรายได้อย่างไร?

เนื่องจากปัจจุบัน การผลิตครีมและเครื่องสำอางไม่ได้จำกัดอยู่แต่แบรนด์ใหญ่หรือบริษัทชื่อดังเท่านั้น แต่ผู้ประกอบการรายเล็กรายน้อย หรือแม้แต่แม่ค้าออนไลน์ก็เริ่มมาทำธุรกิจผลิตครีมและเครื่องสำอางขายกันจำนวนมาก เพราะเป็นสินค้าสิ้นเปลือง ที่ใช้แล้วหมดไป ทำให้ขายได้ง่าย ชายได้ต่อเนื่องเรื่อยๆ ด้วยเหตุนี้ จึงมีครีมยี่ห้อต่างๆ เกิดขึ้นมากมาย

 

ประกอบกับการเติบโตของการชอปปิ้งขายของออนไลน์ ที่มียอดพุ่งสูงขึ้นทุกวัน ก่อให้เกิดการแข่งขันทางการตลาด ในเรื่องของราคา จนทำให้มูลค่าของสินค้าเริ่มลดลง ส่งผลให้มีการลดต้นทุนมากขึ้น จนเริ่มมีการใช้สารเคมี อันตราย ไม่ได้มาตรฐาน จึงทำให้ครีมส่วนใหญ่มาเป็นครีมกวนเอง ที่ไม่มี อย. หรือมีสรรพคุณบำรุงผิวได้จริง สร้างความเสียหายให้กับผู้ที่หลงเชื่อจากการกล่าวอ้างสรรพคุณเกินจริง จนได้รับผลกระทบ เกิดอาการแพ้ผิวเสียหรือโรคร้ายตามมามากมาย ดังที่ปรากฏอยู่ตามพาดหัวข่าวในแต่ละวัน

 

ก่อนเลือกซื้อครีม ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวจึงควรเลือกอย่างถี่ถ้วน ไม่หลงเชื่อคำกล่าวอ้างสรรพคุณเกินจริง โดยมีวิธีการเลือกครีมที่ปลอดภัยง่ายๆ นั้น ให้สังเกตว่า

✅ มีฉลากผลิตภัณฑ์ที่ระบุครบถ้วนตามที่ อย.กำหนด ไม่ว่าจะเป็น

  • ชื่อเครื่องสำอางและชื่อทางการค้า ที่มีชื่อทั้งภาษาไทยและอังกฤษ
  • ชื่อและที่ตั้งของผู้ผลิต กรณีที่ผลิตในประเทศ ชื่อและที่ตั้งของผู้นำเข้า  และชื่อผู้ผลิตและประเทศที่ผลิต กรณีที่นำเข้า
  • ปริมาณ วิธีใช้ ข้อแนะนำ คำเตือน เดือน ปีที่ผลิตและที่หมดอายุ เลขที่หรืออักษรแสดงครั้งที่ผลิต และชื่อของสารทุกชนิดที่ใช้เป็นส่วนผสมในการผลิต
  • ข้อความอื่นเพื่อคุ้มครองประโยชน์ของผู้บริโภค เช่น เลขที่ใบรับแจ้ง จาก อย. เป็นเลข 13 หลัก หรือ 10 หลัก

✅ เป็นผลิตภัณฑ์ที่ไม่มีการอวดอ้างสรรพคุณในการโฆษณาตามสื่อต่างๆเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด และไม่ใช้ข้อความที่ขัดต่อศีลธรรม หรือวัฒนธรรมอันดีงามของไทย

✅ ให้ข้อมูลเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และการดูแลผิวที่ถูกต้องตามหลักวิชาการ และเลือกซื้อผลิตภัณฑ์กับบริษัทที่เชื่อถือได้ เป็นแบรนด์ ที่ได้มาตรฐาน

✅ ไม่เลือกซื้อผลิตภัณฑ์ที่ราคาไม่เหมาะสมกับคำกล่าวอ้างสรรพคุณ เช่น ครีมทาผิวขาว ช่วยให้ผิวขาวเห็นผลใน 3-7 วัน แต่ราคาถูก สงสัยได้เลยว่าอาจเป็นครีมที่มีสารอันตราย

 

✨ วันนี้เวลพาโน่มีทางเลือกใหม่ ปลอดภัยไม่มีส่วนผสมของสารที่ก่อให้เกิดการระคายเคืองผิว หรือสารอันตราย เหมาะสำหรับคนที่ผิวบอบบางหรือแพ้ง่าย เลือกใช้อย่างอ่อนโยน สิวหายไร้กังวลเลย ควรเลือกใช้สกินแคร์ที่ปลอดภัย อ่อนโยนต่อผิว เพื่อเป็นการฟื้นฟูผิว และดูแลให้ผิวดีขึ้นได้ในระยะยาว อีกสิ่งสำคัญในการดูแลผิวนอกเหนือจากการเลือกใช้สกินแคร์ คือการปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวันของเราร่วมด้วย เช่น การกินอาหาร การนอน ความเครียด ทุกอย่างล้วนส่งผลต่อสุขภาพกายและสุขภาพของผิวด้วยค่ะ 

👩🏻‍⚕️สำหรับสกินแคร์ของแบรนด์เวชสำอาง Welpano เป็นผลิตภัณฑ์ที่ไม่มียาเป็นส่วนประกอบ สามารถช่วยฟื้นฟูผิวให้แข็งแรง และผลิตภัณฑ์เวลพาโน่สามารถใช้ดูแลผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ สามารถใช้ได้กับทุกสภาพผิว แม้ผิวบอบบาง ผิวแพ้ง่าย เพราะว่าสกินแคร์ของเรา ไม่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ น้ำหอม น้ำมัน สีสังเคราะห์ และสารกันเสียพาราเบน ที่ก่อให้เกิดการระคายเคืองผิว คุณแม่ตั้งครรภ์สามารถใช้ได้อย่างปลอดภัยเลยค่ะ

 

Like