หน้าหลัก > ข่าวสารและความรู้ > [สุดยอดรีวิวแห่งปี]สิวฮอร์โมน ผิวติดสารรุนแรง หน้าแพ้น้ำ แพ้มาร์ค แพลนมีน้อง อวสานหน้าสิว!!!
[สุดยอดรีวิวแห่งปี]สิวฮอร์โมน ผิวติดสารรุนแรง หน้าแพ้น้ำ แพ้มาร์ค แพลนมีน้อง อวสานหน้าสิว!!!
[สุดยอดรีวิวแห่งปี]สิวฮอร์โมน ผิวติดสารรุนแรง หน้าแพ้น้ำ แพ้มาร์ค แพลนมีน้อง อวสานหน้าสิว!!!
23 Dec, 2016 / By welpano
Images/Blog/4789765-ปกเว็บ22.jpg

         สวัสดีค่าา ช่วงหลายเดือนมานี้ มีREVIEWจากลูกค้าผู้ใช้เวลพาโน่จำนวนมาก ทยอยส่งข้อความเข้ามาทางไลน์ และทางInbox เพราะแต่ละท่านใจดี ผิวตัวเองดีขึ้น ก็อยากแบ่งปันให้คนอื่นๆผิวดีแบบเค้าบ้าง ซึ่งแต่ละท่านเจอปัญหาผิวมาแตกต่างกัน แต่ปัญหาผิวที่มาเป็นอันดับ1 ก็คือ ผิวติดสารสเตียรอยด์ 

      กระทู้นี้เป็นการรวมสุดยอดรีวิวเด็ดๆแห่งปี  จริงๆมีรีวิวเยอะมากๆ แต่ขอรวมมาซัก4เครสตัวอย่างล่ะกันนะคะ อันไหนตรงกับปัญหาผิวของตัวเองก็นำทริคดีๆไปปรับใช้กันนะคะ  

เริ่มต้นเลยค่ะ รีวิวที่ 1

         วันนี้เราจะมาแชร์ประสบการณ์ฟื้นผิวเสียให้เป็นผิวใส ต้องบอกก่อนว่า เราเป็นสิวมาตั้งแต่วัยรุ่นสมัยเรียนมอปลาย จนตอนนี้ทำงานแล้ว อายุเข้าใกล้ 30 แต่เพิ่งจะมาหายจากสิว ผิวเริ่มๆจะเนียนแบบคนอื่นซะที ด้วยวิธีดูแลผิวตามนี้ค่ะ เราพร้อมเผยหมดเปลือกว่า ผิวเราเคยแพ้อะไรมา แล้วหน้าพังขนาดไหน รักษายังไงบ้าง เผื่อจะเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆที่กำลังเครียดเรื่องหน้าพังแบบที่เราเคยเป็น เราเข้าใจดีเลยว่า ตอนที่หน้าพังมันเครียดขนาดไหน เวลาไปทำงาน พบปะผู้คนก็ชอบทักว่าทำอะไรมา ทำไมไม่รักษาหน้า ทำไมปล่อยให้หน้าพัง สิวขึ้นเยอะขนาดนี้ เราก็แอบน้อยใจว่า ไม่ต้องทักได้มั้ย ตอนนี้ก็กำลังรักษาอยู่นะเนี่ย T---T

          ตั้งแต่ที่เริ่มเป็นสิวสมัยวัยรุ่น ก็เครียดมาก เลยเข้ารักษาที่คลินิกผิวหนัง ตอนรักษาก็ดีขึ้นนะ เราก็ใช้ครีมกับยาที่คลินิคหมอมาเรื่อยๆ แล้ววันนึงก็รู้สึกว่า อยากหามาร์คหน้าดีๆสักอัน มามาร์คก่อนนอน น่าจะช่วยฟื้นผิวได้ดี เราก็ตัดสินใจลองใช้มาร์คแอปเปิ้ลยี่ห้อนึง ปรากฏว่าแพ้หนักมาก เลยตัดสินใจหยุดทุกอย่างอีกครั้ง แล้วกลับไปสู่จุดเดิมคือ หาหมอ กินยา ฉีดสิว กดสิว ทายาสเตียรอยด์ แต่ครั้งนี้รู้สึกว่า กินยาไปซักพักแล้วทำให้ปากแห้งมากกกก ก.ไก่ล้านตัว บางครั้งเลือดออกซิบๆที่ริมฝีปาก ตาแห้ง แสบตามาก และด้วยค่ารักษาที่แพงมาก ต้องไปพบหมอทุกๆสัปดาห์ ค่ารักษาสัปดาห์ละ 2-3พันบาท เราก็สู้ค่ารักษาไม่ไหว ก็เลยหยุดไปหาหมอที่คลินิก

         เพื่อนๆเห็นรูปเราแล้วอย่าตกใจไปเลยนะ คือเราเป็นสิวหนักมากจริงๆ ขึ้นทุกรูขุมขน ถ้ามีที่ว่างตรงไหน สิวก็จะขึ้นตรงนั้นเลย เวลาล้างหน้า หรือเช็ดหน้าบางทีเผลอเช็ดแรง เจ็บจนน้ำตาไหลเลย

จากนั้นก็ตั้งใจกับตัวเองว่า จะหาทางดูแลผิวเอง โบกมือบ๊ายบายครีมสเตียรอยด์ทุกชนิดอย่างเด็ดขาด ตั้งใจเลยว่า อยากให้ผิวดีแบบปลอดภัย ใช้เวลาในการรักษานานเท่าไร เราก็รอได้ ไม่รีบร้อนตามกระแสแล้วมาเครียดหน้าพังทีหลัง แบบนั้นเข็ดแล้วจริงๆ ขอเพียงแค่ให้เห็นผลดีตามลำดับ เท่านั้นเป็นพอใจ

          เราเริ่มดูแลสิวปรึกษาการใช้ยารักษาสิวจากเภสัชกรที่ร้านยาบ้าง  อ่านตามกระทู้ที่เพื่อนๆแบ่งปัน และใช้ตามเพื่อนๆที่ทำงานที่เค้าเคยเป็นสิวหนักแบบเรา แล้วเค้าดีขึ้น เราจึงเริ่มดูแลผิวอย่างจริงจังมาตั้งแต่ช่วงปลายเดือน มกราคม 2559 นี้ จนกระทั่งถึงวันนี้ เกือบ10 เดือนเต็มค่ะ สำหรับเรา....ระยะเวลาที่สิวเริ่มลดลงแบบเห็นได้ชัดก็ประมาณ 3เดือน  สิวเราน่าจะมาจากสิวฮอร์โมนด้วยส่วนนึง อีกส่วนนึงที่ผิวดูโทรม แห้งกร้าน ผิวขาดน้ำ เพราะเมื่อก่อน เราไม่เปิดใจใช้ครีมบำรุงอะไรเลย เพราะกลัวแพ้อีก เน้นแต่ใช้ยาสิว

           หน้าเลยเป็นอย่างที่เห็นในรูปค่ะ ตอนนี้สิวที่เคยยกขบวนกันมาขึ้นบนหน้าเรา ก็ยุบหมดแล้ว รอยก็จางอย่างเห็นได้ชัด ตอนนี้ก็มีสิวขึ้นบ้าง ประปรายในช่วงที่มีประจำเดือน แต่ก็ไม่เยอะแบบเมื่อก่อนละ กว่าจะมีผิวดีขึ้นในวันนี้ ทำเอาซะจิตตก เมื่อก่อนไม่อยากออกจากบ้านไปทำงานเลย ไม่อยากหยิบกระจกมาส่องหน้าเลย โอ๊ยย..นึกแล้วเครียด เราเป็นหนักมาก วันนี้หายแล้ว ยิ้มได้แล้ว ถ่ายเซลล์ฟี่เป็นว่าเล่นเลย

          เราตั้งใจเขียนรีวิวนี้ เพื่อแบ่งปันแบบหมดเปลือก ปกติเราไม่ชอบเขียนกระทู้ อันนี้เป็นครั้งแรกของเราเลย เพราะเห็นว่าน่าจะมีประโยชน์กับคนอื่นๆที่เค้าเครียดเรื่องผิว

          สำหรับผลิตภัณฑ์ที่เราใช้ดูแลผิว “เปลี่ยนผิวเสีย เป็นผิวใส” ในรอบนี้ ที่เริ่มดูแลผิวอย่างจริงจังมาตั้งแต่เดือนมกรา 59 มีทั้งหมด 9 อย่าง โดยที่ 4อย่างเป็นไอเทมที่เราซื้อจากร้านยา และ อีก 5 อย่างเป็นสกินแคร์ดูแลผิว เราเลือกโดยเน้นความอ่อนโยน เป็นเวชสำอางที่ไม่เหมือนเครื่องสำอางงทั่วไป ไม่ผสมน้ำหอม แอลกอฮอล์ และไม่มีสารกันเสียชนิดพาราเบน ก่อนหน้านี้ก็ใช้หลายแบรนด์ปนๆกันไป แต่รู้สึกว่าไม่เวิค เลยลองมาศึกษาของแบรนด์welpano เจ้าของแบรนด์เป็นเภสัชกรคิดสูตร ลองอ่านสตอรี่ของแบรนด์แล้วดูน่าเชื่อถือ ไม่โอ้อวดสรรพคุณเกินจริง เห็นเจ้าของแบรนด์เค้าผิวแพ้ง่ายแบบเรา เค้าเข้าใจหัวอกคนผิวแพ้ง่ายได้ดีอ่ะค่ะ ตอนแรกก็ซื้อครีมเจลบำรุง//ครีมกันแดด แล้วก็โลชั่นเช็ดก่อนล้างหน้าของแบรนด์welpano มาใช้ก่อน แล้วแบบติดใจอ่ะ คือดีงาม โดยเฉพาะครีมเจลทาปุ๊บ ซึมสู่ผิวปั๊บ เรารู้สึกสบายหน้า ไม่เหนอะเลย จากนั้นก็เลยจัดอีก 2 อัน(ล้างหน้า กับ เจลแต้มสิว)ให้ครบเซตเลย มาดูกันเลยค่ะ ว่าเราฟื้นผิว สู้รบกับเจ้าสิวยังไงบ้าง

อ้อ...ลืมบอกอีกอย่างว่า ช่วงที่สิวเห่อ เรางดรองพื้น งดบีบีทุกชนิดค่ะ ทากันแดดแล้วลงแป้งฝุ่นอย่างเดียว งดปัดแก้มด้วย ช่วงนั้นต้องตัดใจจริงๆ ใครจะทักจะว่าอะไรก็ช่างเค้า ชั้นยอมหน้าสดไปทำงาน^---^ แต่มีช่วงก่อนที่สิวหนักจริงๆ เราก็ใส่แมส แบบชนิดผ้าสีขาว ซักด้วยน้ำยาซักผ้าสูตรน้ำของเด็ก เพราะเราแพ้แมส กระดาษ พอเปลี่ยนมาใส่แมสผ้าแล้วโอเคขึ้นแฮะ แต่ก็ไม่ได้ใส่ทั้งวันนะ เพราะกังวลว่าจะอบสิว แล้วหายช้า  ส่วนเรื่องแป้งฝุ่น เรายังค่อนข้างซีเรียสเลยค่ะ เพราะเราแพ้แป้งที่ผสมน้ำหอม เพราะเคยลองเอามาทาแล้ว ผื่นคันมาตรึมเลย สุดท้ายมาเจอที่ใช่ซะที เราใช้แป้งฝุ่น Reis Care (ไร้ซแคร์) กระป๋องสีฟ้า ๆ สูตร Hypoallergenic 1oo% Talc free

         มาดูเจ้าไอเทมแรกกันเลย.........เมื่อกลับถึงบ้าน ก่อนล้างหน้าตอนเย็น เราจะใช้ Welpano Extra Sensitive Lotion Cleanser ปั๊มลงสำลีแผ่น แล้วเช็ดหน้าเพื่อคลีนครีมกันแดด และฝุ่นออกจากผิวก่อน นี่ขนาดไม่แต่งหน้านะ แต่สำลียังดำปรี๊เลย T—T เราเลือกใช้อันนี้เพราะเท่าที่เราสังเกตหลังใช้ นอกจากจะช่วยคลีนหน้าก่อนล้างหน้าแล้ว ยังช่วยให้สิวอุดตันหลุดได้ดีขึ้น โดยไม่ระคายเคืองผิว และไม่มีน้ำหอมด้วย เวลาเช็ดหน้าเสร็จ เราชอบมาก เพราะหน้าจะนุ่มๆเด้งๆ แล้วรู้สึกว่าไม่แสบผิว ไม่อุดตันด้วย เพราะก่อนนี้เราเคยใช้แบบสูตรน้ำ เวลาเช็ดจะฝืดผิวมาก เลยเจ็บสิว น้ำตาจะไหล พอมาเจอแบบโลชั่นของเวลพาโน่ เลยติดใจเลย ใช้หมดไปเกือบ 20 ขวดได้แล้วอ่า แต่มีวันนึงที่เราจำเป็นต้องแต่งหน้าแน่นไปงานเลี้ยงที่ทำงาน ตกดึกพอกลับมาถึงบ้าน ก็รีบใช้โลชั่นนี้เช็ดเครื่องสำอางออก ปรากฏว่าก็สามารถรีมูฟเครื่องสำอางออกหมดแฮะ

        เมื่อเช็ดหน้าด้วยโลชั่นตามขั้นตอนที่ 1 เสร็จแล้ว ก็ล้างหน้าด้วยน้ำเปล่า 1 รอบ(ไม่ต้องใช้โฟม) และใช้สำลีแผ่น เช็ดหน้าให้แห้ง จากนั้นจะทาBenzac 5% ตรงบริเวณที่มีสิวอุดตัน จะช่วยละลายหัวสิวอุดตัน ทาทิ้งไว้แค่ 15 นาที แล้วเราก็ล้างออกด้วยโฟมล้างหน้า จริงๆครีมที่ทาก่อนล้างหน้าที่ร้านยามีหลายยี่ห้อค่ะ แต่อันอื่นๆเราลองใช้แล้วแสบหน้า อาจจะด้วยว่าอันอื่นมีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ค่ะ แต่Benzacเราอ่านฉลากข้างหลอด เค้าเขียนว่าWater base gelเภสัชที่ร้านยาบอกว่า ไม่มีแอกอฮอล์ผสม เราใช้ Benzac แต่ก่อนล้างหน้าตอนเย็นเวลาเดียวค่ะ

        หลังจากทาBenzac 5% ครบ 15 นาทีแล้ว ก็จะล้างหน้าให้สะอาดด้วย Welpano Facial Liquid Cleanser บอกเลยว่า กว่าจะหาโฟมล้างหน้าที่ถูกใจเนี่ย ยากจริงๆนะ เราเลือกอันนี้เพราะไม่ผสมน้ำหอม แต่กลิ่นไม่ฉุน ละมุนอ่อนๆแบบสารสกัดจากธรรมชาติอ่ะค่ะ เพราะเคยเจออันอื่นๆเขียนว่า ไม่ผสมน้ำหอม แต่กลิ่นก็ฉุน คือเวลาล้างหน้าแล้วจะเป็นลมอ่า  เราเป็นคนผิวผสม มันตรงทีโซน ส่วนที่แก้มก็ผิวปกตินะ ไม่แห้ง ไม่มันจนเกินไป พอใช้อันนี้ล้างหน้าแล้วรู้สึกว่าลงตัวเลย ไม่ทำให้ผิวมัน และไม่แห้งตึงจนเกินไป เข้าตาก็ไม่แสบ โดยรวมคือ ชอบๆ อ่านข้างขวดเขียนว่า pH5.5 สมดุลผิว สูตรSLS-free

        หลังจากล้างหน้าเสร็จแล้ว เราจะใช้น้ำเกลือเช็ดหน้า อีก1 รอบใช้เฉพาะตอนเย็น ตอนเช้าไม่ได้ใช้ เพราะตื่นนอนมา หน้าไม่ได้สกปรกอะไร เราเคยลองใช้ 2 เวลา รู้สึกว่าหน้าแห้งไป  ใช้น้ำเกลือแทนโทนเนอร์ เพราะน้ำเกลือมีฤทธิ์ฆ่าเชื้ออ่อน เราซื้อแบบขวดเล็กสุด เปิดแล้วอยากใช้ให้หมดภายใน 1 เดือน

วิธีใช้: เทน้ำเกลือลงบนสำลีแผ่น แล้วเช็ดทั่วหน้า 1 รอบ หลังล้างหน้าตอนเย็น

         หลังจากล้างหน้าเสร็จแล้ว จะใช้สำลีแผ่นซับน้ำที่อยู่บนหน้าให้แห้ง ทริค...สำหรับคนเป็นสิว ไม่ควรใช้ผ้าขนหนูเช็ดหน้านะ เพราะว่าบางทีฝุ่นติดมากับผ้า พอมาเช็ดหน้าก็คันยิบๆ ตั้งแต่ที่เรามีสิวมารุมเนี่ย ก็จะระวังมากซะทุกอย่าง เพราะกลัวจริงๆใครไม่เป็น ไม่รู้หรอก +---+ พอเช็ดหน้าเสร็จ ก็จะทาWelpano Cream-gel ทั่วทา ทั้งเช้า และก่อนนอน อันนี้เป็นไอเทมที่เราชอบมาก แล้วเราคิดว่าเพื่อนๆที่กำลังใช้อันนี้อยู่ น่าจะชอบแบบเรา เพราะเวลาทาแล้วรู้สึกสบายผิว ยิ่งบางครั้งเราชอบเอาครีมเจลนี้ไปแช่ตู้เย็น แล้วมาโปะหน้าตอนช่วงที่หน้ากำลังถูกระคายเคืองหรือผิวแดงๆอยู่  ครีมเจลนี้จะช่วยลดรอยแดง ลดรอยสิว ลดการระคายเคืองผิวลดอุดตัน เราใช้อันนี้แทนครีมบำรุงเลย เพราะสรรพคุณของเค้าที่เราลองอ่านดู คือ ช่วยบำรุงผิว ในคนที่มีสิว หรือ ผิวแพ้ง่าย เป็นครีมบำรุงนวัตกรรมใหม่ ที่อยู่ในรูปครีมกึ่งเจลใสๆ ไม่ผสมน้ำหอม อันนี้ใช้มาเกือบ20หลอดเหมือนกันค่ะ รู้สึกว่าหน้ากระจ่างใสขึ้นด้วย และรูขุมขนดูกระชับ เวลาทาแป้งก็ไม่เป็นคราบ ชอบตรงนี้แหละ

        หลังจากนั้น จะทาClindalin gel ทาในบริเวณที่เป็นสิว เช้า-ก่อนนอน เพื่อฆ่าเชื้อสิว เลือกใช้ยี่ห้อนี้เพราะไม่มีแอลกอฮอล์ เราใช้แค่ช่วงที่สิวหนองเยอะๆ เท่านั้น ตอนที่สิวเริ่มลดลงแล้ว ก็หยุดทา เพราะว่าถ้าทาตลอด ติดต่อกันนานๆ จะทำให้ดื้อยา เพราะเภสัชที่ร้านบอกว่าอันนี้เป็นยาฆ่าเชื้อ ถ้าใช้พร่ำเพื่อ จะเกิดเชื้อดื้อยา บางคนไม่เข้าใจคิดว่าทาเพื่อป้องกันสิว

        แล้วก็ช่วงที่หน้าแพ้มาร์คแอปเปิ้ล และหยุดยาหมอแบบหักดิบ มักจะมีผดขึ้น และมีอาการคันยิบๆ บางทีก็เป็นปื้นๆแดงๆที่แก้ม และกรอบหน้า เราก็จะใช้ Fenistil gel ซื้อมาจากร้านยา ทาตรงบริเวณที่มีผื่นคัน เพราะอันนี้เป็นเจลทาแก้แพ้ ไม่มีสารสเตียรอยด์ผสม เราทาสัก7-8 วัน พอผื่นลดลงเราก็หยุดทาได้ ช่วงแรกๆที่ผิวยังไม่แข็งแรง ที่รอwelpanoฟื้นผิวอยู่ ก็มักจะมีผดๆขึ้นบ้างก็จะอาศัยเจ้านี่ Fenistil gel ทาช่วย ทาเช้า-ก่อนนอน

        จากนั้นก็ทาครีมกันแดด สำหรับเราที่กำลังเป็นสิวบุกอยู่จะค่อนข้างหาครีมกันแดดใช้ลำบากเพราะว่า หลายๆยี่ห้อเคยลองใช้แล้ว คันยุบยิบ หรือเวลาเหงื่อออกจะเยิ้มมาก เหนอะมาก ทนไม่ไหวเลยต้องรีบล้างหน้าเลย เลยมีอยู่ช่วงนึงเลิกทาครีมกันแดดไปเลย ทีนี้เราทำงานในออฟฟิต เจอแสงหน้าจอคอม ไฟนีออน เลยทำให้เรามีฝ้าจางๆที่หน้าด้วย ตอนนี้ก็กำลังรักษาไปพร้อมกับสิวด้วย พอมาเจอครีมกันแดดของเวลพาโน่นี้ เลยทำให้เราสามารถกลับมาทาครีมกันแดดได้อีกครั้ง เพราะไม่เหนอะเลย SPF50 PA+++ แต่ทาแล้วซึมสู่ผิวทันที ไม่ผสมน้ำหอม ระหว่างมันหน้าไม่เยิ้ม ไม่คัน เราก็เลยชอบ ที่สำคัญสิวไม่ขึ้นเพิ่มด้วยนะ เพราะหลายคนชอบบอกว่า เป็นสิวอยู่ห้ามใช้ครีมกันแดด เพราะจะแพ้ จะอุดตัน แต่สำหรับเรา เราว่าไม่เกี่ยวนะ เพียงแต่ต้องเลือกนิดนึง เพราะคนเป็นสิว ผิวมักจะบอบบาง

        มาถึงไอเทมสุดท้าย ที่เราใช้ปราบสิวในครั้งนี้ คือ เวลพาโน่แอคเน่เจล เราแต้มตรงหัวสิวที่อักเสบจากบวมๆแดงๆอยู่ แต้มกลางคืน ตื่นเช้ามาก็รู้สึกได้ว่าสิวยุบ แต่ถ้าเม็ดไหนเป็นสิวหัวช้างที่ค่อนข้างใหญ่ ก็ใช้เวลาหน่อยอ่ะ ถ้าอันไหนเม็ดใหญ่มาก เราจะใช้นิ้วถูวนๆเบาๆตรงหัวสิว อันนี้ไม่ได้ผสมตัวยาฆ่าเชื้อ แต่ใช้สารสกัดจากเปลือกมังคุดช่วยลดการอักเสบของสิว เลยไม่ทำให้เชื้อสิวดื้อยา แต่ใช้ไปสักพัก สิวยุบหมด ก็เก็บเจลแต้มสิวเข้ากระเป๋าได้เลย เพราะไม่มีสิวให้แต้มแล้ว  สบายใจเฉิบ

        แล้วนี่ก็เป็นภาพผลลัพธ์ที่เราพลีชีพหน้าสดให้เพื่อนๆดู จากหน้าพังหนักมาก กู้คืนมาได้ขนาดนี้ ก็พอใจแล้วนะ แล้วก็จะดีขึ้นอีกเรื่อยๆ ตอนนี้เราก็แฮปปี้นะ อยากให้กำลังใจเพื่อนๆว่า ช่วงที่เราปล่อยให้หน้าตัวเองติดสเตียรอยด์ หน้าพัง หรือหอบหน้าไปแพ้อะไรมา เรายังไม่เห็นนับวันรอเลยว่าเราแพ้มานานเท่าไร ทีนี้พอรอเวลาที่หน้าจะหายดีแบบเดิมนั้น อาจใช้เวลา เมื่อก่อนเราก็คิดว่าทำไมการใช้ผลิตภัณฑ์ที่ปลอดภัยถึงเห็นผลช้าจัง แต่พอผ่านไปสักพัก ผลลัพธ์ก็ดีชัดเจนแบบในรูป ใจก็ชื้นขึ้น อยากเป็นกำลังใจให้ทุกคนผ่านจุดหน้าพังไปให้ได้ อดทนเท่านั้น ห้ามแกะสิว ห้ามบีบ แล้ววันที่สดใสมีจริงเสมอ สู้ๆคร่า เราเป็นกำลังใจ^^

.

.

.

.

.

.

.

.

.

เพื่อไม่เป็นการเสียเวลา  ​มาต่อที่รีวิวที่2 เลยนะคะ

          จุดเริ่มต้นคือ เรามั่นใจกล้าไปสั่งมาร์คหน้าทางเน็ตมาใช้แล้วเกิดอาการแพ้ผื่นขึ้นสิวอุดตันยึดพื้นที่เต็มหน้าเลย ค่อยๆพัฒนาไปเป็นสิวอักเสบ เราก็ไม่รู้ไงดี เลยหันหน้าไปเป็นคนไข้ของหมอคลินิกรักษาโรคผิวหนังชื่อดังแห่งหนึ่งตอนนี้แหละที่ผิวเราเข้าสู่โหมดโดฟยา เสพสเตรีย รอยด์เต็มรูปแบบเลย ยาฉีด ยาทา กดสิว แล้วเราก็ได้หน้าใสๆกลับคืนมา ทุกอย่างกำลังไปได้ดี

         จนวันนึง ~ เรากับแฟนแพลนจะมีน้องกัน คำสั่งก็มา ต้องเลิกใช้ยาหมอ เราเลยักดิบหยุดทุกสิ่งอย่างจากคุณหมอ เลิกทา ครีมทุกตัว แล้วช่วงเวลาอันโหดร้ายก็มาเยือน เหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น เช้าวันต่อมาบรรดาสิวๆก็พร้อมใจ จับมือกันมาแบบมาฆบูชา (มิได้นัดหมาย)เรียงรายจับจองพื้นที่ว่างๆทั่วใบหน้า!!! ซึ่งเราก็มารู้ในภายหลังว่า อาการนี้คืออาการผิวติดสเตรียรอยด์มาดูสภาพหน้าหลังเลิกยากันคะ รับไม่ได้จริงๆ ถึงขั้นเลิกส่องกระจกไปเป็นอาทิตย์เลย

แต่...ฟ้าหลังฝนยังมีเสมอ ด้วยความไม่ยอมแพ้ต่อมหกรรมสิวในครั้งนี้ เราก็สามารถถอนพิษเตรียรอยด์และไล่ที่พวกสิวออกไปจากผิวหน้า ตอนนี้ผิวก็กลับมาเรียบเนียน ผ่องใสแบบเดิมแล้วนะคะ เราใช้เวลาฟื้นผิวหน้าโดยรวมประมาณ 5 เดือนเริ่มสังเกตได้ว่าสิวอักเสบยุบและดีใจที่สิวไม่ค่อยขึ้นใหม่แล้ว ตอนนี้เหลือแค่สิวผดนิดหน่อยค่ะ เล็กน้อยมากๆ ที่ชอบขึ้นช่วงมีประจำเดือนและช่วงนอนดึก

        มันเครียดมากเลยน้าาา ช่วงนั้นกว่าจะมีวันนี้ได้... ส่องกระจกแล้วหัวใจจะวาย นี่ผิวหน้า หรือดวงจันทร์ ฮืออออออ :T^T: วันนี้ก็เลยเอาผลิตภัณฑ์ที่เราใช้ถอนสเตรียรอยด์มารีวิวให้ดู เผื่อจะมีประโยชน์กับคนที่ผิวแพ้ง่าย หรือเป็นคุณแม่ที่กำลังมีลูกน้อย เพราะทุกตัวที่เราใช้รักษาเน้นอ่อนโยน คนท้องหรือสตรีให้นมบุตรก็สามารถใช้ได้ค่ะปลอดภัย คอนเฟิมว่าก่อนใช้เราศึกษามาแบบละเอียดถี่ถ้วนมากๆๆๆ ทั้งเรื่องความอ่อนโยน และความปลอดภัย มั่นใจขั้นสุด เพราะใช้ดีจริงทุกตัวจ้าาา ขนาดที่ว่าคนที่ไม่ได้ท้องแต่ผิวบางผิวแพ้ง่ายก็สามารถใช้รักษาได้ค่ะ

       โอเคมาถึงขั้นรักษา อย่างที่บอกเนอะว่าเตรียมตัวมีน้องทุกตัวที่เราใช้ คือคัดแล้วคัดอีก ศึกษาหาข้อมูลประกอบแบบ จริงจังเพื่อความเซฟตี้ปลอดสารอันตราย และใช้ได้ชัวร์สำหรับคนท้อง ส่วนสินค้าในตลาดก็มีหลากหลายตัวที่เคลมว่าคนท้องใช้ได้ แต่เราใช้แล้วก็ยังแพ้! เพราะตอนนั้นผิวบางเบอร์ใหญ่อลังมาก ใช้อะไรแทบไม่ได้เลย เราเลยค่อนข้าง

มั่นใจว่าถ้าใครแพ้ง่ายแล้วมาลองใช้แบบเราน่าจะเวิค ในทุกๆตัวที่เราใช้ จะเน้นดูส่วนผสมหลักๆเลยคือ ต้องไม่มี ส่วนผสมของน้ำหอม แอลกอฮอล์ ไม่มีพาราเบน

ตัวแรกที่เราใช้คือCleansing Lotion ของ welpano ถือเป็นเวชสำอางค์เน้นความอ่อนโยน คนท้องใช้ได้ค่ะ ตัวนี้เนื้อครีม สีขาวเนื้อนุ่ม เช็ดสะอาด ใช้สำลีเช็ดสองแผ่นเป็นพอ แต่ถ้าไม่มั่นใจ หรือแต่งหน้าหนาให้เช็ดเพิ่มอีกสักแผ่นดู เช็ดแผ่นที่ 3 คือสำลีขาวเลย เราก็เลยใช้แค่ 2 แผ่นพอ ประหยัดมากค่ะ

         ตัวล้างหน้าเราก็ใช้ของWelpano เหมือนกัน ถ้าใครที่ผิวติดสเตรียรอยด์หรือผิวบาง จะรู้ว่าปัญหาหลักๆที่เจอคือ ใช้อะไร ก็แพ้ไปหมด เราลองเปลี่ยนมาหลายตัวมาก เจอที่ใช้แล้วไม่แพ้แค่ไม่กี่อย่าง ไม่กี่ยี่ห้อจริงๆ welpano ใช้แล้วไม่แพ้ของเราเลยใช้ทั้งเซตเลย 5 ตัวโอเคมาก ตัวล้างหน้าพอล้างเสร็จแล้วผิวจะไม่แห้งตึง จะมีความชุ่มชื้นทิ้งไว้บนหน้า ตรงนี้ สำคัญมาก ถ้าใช้ล้างหน้าตัวไหนแล้วผิวตึงๆ แนะนำให้เปลี่ยน จะยิ่งทำให้ผิวขาดน้ำ และระคายเคือง

         พอล้างหน้าเสร็จเราจะใช้ผ้าสะอาดเช็ด ต้องแยกกับผ้าเช็ดตัวนะคะ แล้วซักให้บ่อยถ้าใครไม่สะดวกเราแนะนำให้ใช้ทิชชู สำหรับเช็ดหน้าเช็ดเอาเลย อย่าไปใช้ผ้าเช็ดตัว มันแหล่งหมักหมมพวกฝุ่น และแบคทีเรียเลย

        หลังล้างหน้าเสร็จเราจะลง น้ำตบของไบโอเธิร์ม ตัว Life plankton Essence ตัวนี้จะช่วยให้ความชุ่มชื้นผิว เหมาะกับผิว แพ้สิวผื่นขึ้นเยอะๆเค้าจะช่วยปลอบปละโลมผิวได้ดี สังเกตใช้แล้วหน้าจะฉ่ำผิวอิ่มน้ำ ใช้ดีมาก แต่แอบแพงไปนิส เวลาใช้ต้องเขย่าคว่ำขวดก่อนด้วยไม่งั้นแพลงตอนจะตกตะกอนนอนก้นขวดค่ะ

         หลังจากนั้นเราก็จะใช้ whitening gel ของ welpano ลงต่อ แทนครีมบำรุงของหมอที่เคยใช้ ตัวนี้จะช่วยรักษาพวก ร่องรอยที่เกิดจากสิว พวกรอยแผล รอยดำรอยแดง ลักษณะเป็นเจลใสๆ ตัวนี้ตอนทาให้รีบเกลี่ย เพราะซึมค่อนข้างเร็ว ปกติคนท้องจะโดนห้ามใช้ตัวไวท์เทนนิ่งแต่ whitening ของ welpano ใช้ได้ค่ะ เป็นสารสกัดจากธรรมชาติพวกสมุนไพร ไม่ใช่สารสังเคราะห์

        ตัวต่อมาลงว่านหางจระเข้ ช่วยลดอาการระคายเคือง ลดผื่นสิว เป็นเหมือนตัวช่วยผ่อนคลายผิวจากการอ่อนล้าด้วย ตรง คอนเซปถูกและดีธรรมชาติอ่อนโยน เวลาเลือกซื้อต้องดูดีๆ อโลเวล่ามีหลายแบรนด์ในท้องตลาดส่วนใหญ่จะทาแล้วซึม ไม่ก็ระเหยไปไหนก็ไม่รู้ ไวมาก แบบนั้นคือผสมแอลกอฮอล์ของBurnova Gel ไม่ผสมแอลกอฮอล์ปลอดภัย หายห่วง

         พอเสร็จก็ทาตัวแต้มสิวต่อ ถ้าตอนเช้าทาแค่บางๆเฉพาะตรงหัวสิวเพราะเดียวต้องแต่งหน้าต่อ แต้มสิวที่อักเสบแดงๆมี หนองแล้วก็สิวหัวช้างค่ะแต่ถ้ากลางคืนแต้มพอกทิ้งไว้ข้ามคืนเลยสิวแห้งเร็วขึ้นมากไม่ต้องแต้มรอยแดงนะเปลืองค้า เพราะเราลองแล้ว ถ้ารอยแดงตัว whitening gel จะเวิคกว่าค่ะ

        ถ้าช่วงเช้าก็ต่อ ด้วยกันแดดเลย ก่อนลงทิ้งช่วงเวลาสัก 1-2 นาทีให้ตัวแต้มสิวได้ทำงานก่อน แต่กันแดดคือห้ามลืมเด็ดขาด สำหรับคนหน้าสิวผิวบาง แสงแดดจะอันตรยมากๆกับผิวเรา เราแค่ออกแดด หน้านี่แสบคันเลย รอยแผลจะไวต่อแสงด้วย ถ้าเจอแดดแล้วพัฒนาไปเป็นรอยดำจะหายยากขึ้น

         เรามีปัญหากับการหากันแดดมากที่สุดแล้ว ใช้ตัวไหนก็แสบร้อนหน้า ตัวล้างหน้า ตัวบำรุง ตัวรักษาสิวที่ใช้แล้วไม่แพ้ว่าหายากแล้ว กันแดดดีๆที่อ่อนโยนหายากที่สุด ตั้งแต่เคยใช้มา โอเคกับแค่ 2 ตัวเท่านั้น คือของ  welpano ที่ใช้อยู่ปัจจุบัน  ซึมง่าย อ่อนโยน ไม่แสบผิว กับตัวเดิมที่เคยใช้คือของ eucerine ทั้งคู่ค่อนข้างคล้ายกันมากต่างกันนิดหน่อยที่ texture welpano เป็นเนื้อครีมสีขาวใช้นิดเดียวทาทั่วหน้าแล้ว ส่วน eucerine เนื้อ สีเหลืองจะเหลวเป็นน้ำมากกว่า มันกว่านิดหน่อย หลังจากเลิกกินยาคุมความมันของหมอ หน้าเรามันขึ้นมากเลยต้องเปลี่ยนมาใช้ของ welpano แต่ถ้าใครผิวไม่ได้ มันมาก ก็สามารถใช้ eucerine ได้เหมือนกันค่ะดีเหมือนกัน

        จบจากกันแดด ก็แต่งหน้าได้เลย ช่วงรักษาสิว เราจะแต่งหน้าให้บางที่สุดเท่าที่จะทำได้ งดใช้รองพื้น คอนทัวร์ ไฮไล แล้วก็คอนซีลเลอร์ในช่วงสัปดาห์แรก พอเริ่มดีขึ้นอาทิตย์ที่2 เราเริ่มกลับมาใช้รองพื้นแต่ยังงดใช้คอนซีลเลอร์อยู่ จนปัจจุบัน หน้าไม่มีร่องรอยให้ปกปิดแล้ว ก็ยังไม่ได้ใช้คอนซีลเลอร์อีกเลย

       เราเอาภาพผลลัพธ์การรักษาสิวถอนยาสเตรียรอยด์แบบฉบับคนเตรียมตัวจะมาให้ดูกันชัดๆ จากหน้าพังระดับ10 จนตอนนี้สิวหายหมดแล้ว หน้าใสเลย ตอนนีแฮปปี้ระดับ 100 เลยยยย^^ เหมือนฝันร้ ายเพิ่งผ่านพ้นไป แต่กว่าจะผ่านมาได้ก็ใช้เวลา ต้องอดทนอดกลั้นมาก ห้ามแกะสิว ต้องนอนเร็ว ดื่มน้ำเยอะ พยายามไม่ส่องกระจก ไม่ให้เครียด ถ้าทำได้ตามนีสิวหาย ผ่านพ้นผิวติดสเตรียรอยด์ไปได้แน่นอนค่ะ เราขอเอาใจช่วยคนที่กำลังเผชิญกับปัญหาสิวอยู่นะคะ

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

มาอ่านรีวิวที่3 ต่อเลยค่ะ 

สวัสดีค่า วันนี้พี่วิวได้สัมภาษณ์คุณแม่ของน้องที่ใช้ผลิตภัณฑ์เวลพาโน่ จากเมื่อก่อนที่น้องมีปัญหาผิว เป็นสิวหนัก แถมหลุมสิวก็เริ่มมา อะไรที่ใครว่าดี ก็สรรหามาใช้…..แต่ผิวของลูกชายก็ไม่ดีขึ้น จากนั้น….คุณแม่ได้เปิดมาเจอบทความที่พี่วิวชอบเขียนแนะนำการดูแลผิวไว้ที่เพจwelpano cosmetics:เวชสำอางโดยเภสัชกร และเวปไซด์www.welpano.com พี่วิวจำได้ว่านับตั้งแต่วันนั้น ถึงวันนี้ ก็ครบ1ปีเต็มพอดีค่ะ ที่พี่วิวได้แนะนำการดูแลผิวให้คุณแม่ เพื่อที่คุณแม่จะได้จัดหาสกินแคร์บำรุงผิวให้คุณลูกชายค่ะ


        วันนี้น้องเค้ามีผิวดีขึ้นอย่างชัดเจนมากๆ จริงๆแล้วผิวหน้าของน้องดีชัดเจนประมาณ 2-3เดือน หลังจากได้ดูแลผิวตามที่พี่วิวแนะนำ วันนี้คุณแม่ดีใจมากๆที่คุณลูกชายมีผิวที่ดีขึ้น จึงได้เขียนรีวิวมาฝาก และคุณแม่อนุญาตให้พี่วิวนำมาลงในเวปนี้ เผื่อจะเป็นประโยชน์กับคุณแม่ท่านอื่นๆที่อยากดูแลผิวของคุณแม่เอง หรือ ดูแลผิวของคุณลูกๆวัยรุ่นไปพร้อมๆกันด้วยค่ะ


        สำหรับรีวิวที่คุณแม่ได้เขียนมาฝากนี้ ค่อนข้างละเอียดมากๆเลยค่ะ พี่วิวเข้าใจอย่างลึกซึ้งเลยว่า เวลาที่เราเป็นสิว เราเครียด เราเจ็บหน้ามาก เวลาล้างหน้าแล้วแทบจะร้องไห้เลย

T---T เราค่อนข้างกังวลใจว่าทำอย่างไรผิวจะดี แต่มีใครคนนึง ที่เจ็บกว่าเรา เค้าทนไม่ไหวที่เห็นหน้าของลูกไม่เรียบเนียน และเวลาที่ลูกบ่นว่าเจ็บสิว เค้าเจ็บกว่าเราเยอะค่ะ มาเริ่มต้นอ่านคำรีวิวจากคุณแม่กันเลยนะคะ ^--------^
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

        สำหรับลูกชาย อายุ 20 ปี กำลังเรียนอยู่ชั้นมหาวิทยาลัย จริงๆแล้วเค้าเป็นสิวมาตั้งแต่
สมัยอยู่ ม.ต้น คุณแม่ค่อนข้างกังวล พยายามหาทุกวิถีทาง ทั้งหาเวชสำอางดีๆ ทั้งพาไปหาหมอที่คลินิก เพื่อให้ลูกชายมีผิวดีขึ้น แล้วที่กังวลมากเป็นพิเศษก็ คือ ช่วงใกล้ที่เค้าจะแอดมิดชั่นเข้ามหาลัย เพราะเค้าเริ่มเป็นหนุ่มแล้วอ่ะเนอะ ช่วงหลังที่เลิกไปหาหมอที่คลินิก เพราะว่าน้องเค้าเรียนพิเศษเยอะ เลยไม่มีเวลาไปหาหมอตามนัดทุกสัปดาห์ จากนั้นคุณแม่ก็พยายามให้เค้าใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีขายตามร้านยา แต่ก็ไม่ดีขึ้น สุดท้ายมาถึงจุดพีคคือ แม่ไปหาครีมอันนึงมาให้ลูกใช้ คนขายบอกว่าเป็นครีมสมุนไพรรักษาสิว คุณแม่ก็ตัดสินใจซื้อมาให้ลูก ปรากฏว่า ใช้ๆไปสักพัก สิวเห่อหนักกว่าเดิม คาดว่าน่าจะมีสารสเตียรอยด์ค่ะ ตอนนั้นแม่ก็เครียดมาก นึกโทษตัวเองค่ะ ด้วยความหวังดีอยากให้ลูกหายสิว ใครว่าอะไรดีก็จัดมาหมด


       หลังจากที่รู้ว่ารู้ว่าลูกชายเป็นสิวสเตียรอยด์ เป็นวิกฤตหนักมาก เลยไปปรึกษาเภสัชที่ร้านยาแห่งหนึ่ง คิดว่าน่าจะเป็นหนทางสุดท้ายแล้วจริงๆ เค้าแนะนำให้รู้จักเวชสำอางชื่อแบรนด์เวลพาโน่ เค้าบอกว่าเป็นเวชสำอางที่เหมาะกับคนผิวแพ้ง่าย เพราะผลิตภัณฑ์นี้มีเภสัชกรเป็นเจ้าของแบรนด์ และผ่านการรับรองโดยแพทย์ผิวหนัง เภสัชที่ร้านยาเลยแนะนำให้ใช้เวลพาโน่ ควบคู่กับยารักษาสิว จากนั้นคุณแม่ก็กลับมาเปิดเวปและศึกษาดูเพจอยู่พักนึงเหมือนกันนะคะ เพราะด้วยความที่เรามีความกลัวอยู่ลึกๆว่า จะช่วยให้หน้าของลูกเรากลับมาดีแบบเดิมได้จริงๆใช่มั้ย? สิวจะเห่อขึ้นมาเยอะมั้ยหลังจากใช้? ตอนนั้นก็นั่งคิดนอนคิดอยู่นานค่ะ เพราะก่อนนี้แม่ก็ให้ลูกชายพักหน้าอยู่ 1 เดือนได้ แต่ก็ไม่มีอะไรดีขึ้น
หลังจากได้ดูยูทูป ดูเพจ ดูเวปไซต์ แม่ก็เลยตัดสินใจติดต่อผ่านไลน์ @welpano ได้พูดคุยกับคุณวิว เภสัชเจ้าของแบรนด์เวลพาโน่ เค้าน่ารักมากนะคะ ถามคำถามเค้าเยอะมาก แต่เค้าก็ไม่รำคาญเลยให้คำแนะนำได้ละเอียดมาก


      เลยคิดว่า เอาล่ะ….ลองอีกสักตั้งแล้วกัน และเซตสกินแคร์ต่อไปนี้มีส่วนช่วยมากๆที่ทำให้ผิวหน้าของลูกชาย กลับมาเนียนใสแบบเดิมอีกครั้ง แม่ให้เค้าใช้แค่ผลิตภัณฑ์ ไม่ได้ให้เค้ากินยาฆ่าเชื้อสิวที่ขายตามร้านยาหรือที่คลินิค เพราะกลัวว่าจะมีผลข้างเคียง เพราะเค้าเคยทานยาที่เป็นกรดวิตามินเออยู่พักนึง แล้วเค้ามีอาการปากแห้งมาก เลือดออกริมฝีปากซิบๆ เห็นแล้วก็สงสารลูกค่ะ เลยไม่ให้เค้ากินยา ได้แต่ใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่เหมาะสำหรับผิวแพ้ง่าย แล้วก็ใช้ยารักษาสิวตามร้านยาเท่านั้น

       อันนี้เป็นภาพที่คุณแม่ถ่ายรีวิวเก็บไว้เรื่อยๆ ภาพบนสุดเป็นภาพก่อนใช้ แล้วภาพล่างตามลำดับนั้นคือ ใช้มาต่อเนื่อง ผิวดีขึ้นตามลำดับค่ะ 

        สำหรับผลิตภัณฑ์ที่คุณแม่ให้ลูกใช้ จนกระทั่งทำให้ผิวหน้าเค้ากลับมาเนียนใสแบบเดิมมีดังนี้ค่ะ
        ก่อนล้างหน้า ตอนเย็น ลูกชายใช้ Welpano extra sensitive lotion cleanser ปั๊มใส่สำลี แล้วเช็ดหน้า เพราะแม่เห็นว่า เค้าทาครีมกันแดด ก็ควรจะคลีนหน้าให้สะอาดก่อนจะล้างหน้าด้วย โลชั่นอันนี้ลูกชายชอบมาก ต้องมีติดบ้านไว้ตลอด เพราะไม่ผสมนํ้าหอม และเวลาเช็ดไม่ฝืดหน้า ทำให้เค้าไม่เจ็บสิว อีกอย่างคือ เค้าเป็นคนที่ผิวผสมค่อนไปทางผิวมัน แต่โลชั่นนี้ก็ปรับสมดุลผิวนะคะ โดยไม่ทำให้หน้าแห้งหรือมันจนเกินไปค่ะ 

         สำหรับWelpano extra sensitive lotion cleanser คุณแม่ก็ใช้กับคุณลูกด้วย แม่แต่งหน้าไปทำงานทุกวัน อันนี้ช่วยรีมูฟเครื่องสำอางออกได้หมด สะอาดดีค่ะ ใช้เช็ดก่อนล้างหน้า เช็ดรองพื้นก็ออกค่ะ ถือว่าโอเคเลย

     หลังจากนั้น ก็จะทา Benzac เพื่อละลายหัวสิว ทาทิ้งไว้ 10นาที แม่ให้เค้าใช้แค่ก่อนล้างหน้าตอนเย็นเวลาเดียวค่ะ 

        แล้วล้างหน้าอีกรอบ ด้วยสบู่เหลวของAcne aid สีแดง ทั้งเช้า และ เย็น

อันนี้ใช้มาตลอดเลยค่ะ เป็นสบู่เหลวล้างหน้าที่เค้าติดใจ 

        จากนั้นหลังล้างหน้า จะทา Clinda-m เป็นอันดับแรก ทาทั่วหน้า เพื่อฆ่าเชื้อสิว จริงๆเภสัชที่ร้านยาบอกว่าให้ทาตรงสิว แต่ลูกชายมีสิวเกือบจะทุกอณู เค้าเลยทาทั่วหน้าค่ะ ทั้งเช้า และ เย็น อันนี้คุณแม่ให้น้องเค้าใช้แค่ช่วงแรกๆที่สิวอักเสบค่อนข้างเยอะ แต่พอสิวเริ่มเบาลงแล้ว ก็หยุุดทาคลินด้าเอ็มค่ะ 

         ต่อมาจะทาWelpano cream-gel เป็นอันที่ช่วยบำรุงผิวสำหรับคนที่ผิวแพ้ง่าย แม่เลือกอันนี้ให้ลูกใช้ เพราะไม่ผสมน้ำหอม ไม่มีแอลกอฮอล์ ที่สำคัญคือ ใช้ง่าย บำรุงจบในหลอดเดียวนี้ค่ะ และไม่ตีกับยาสิวที่ซื้อมาจากร้านยา จึงใช้ควบคู่กันได้อย่างลงตัวค่ะ เพราะเมื่อก่อนไม่ค่อยกล้าให้ลูกใช้ครีมบำรุงเลยเพราะกลัวแพ้ ได้แต่ทายารักษาสิว แต่กลับกลายเป็นผลเสียค่ะ ทำให้ผิวของลูกดูกร้าน เหมือนผิวขาดน้ำ  พอมาใช้เวลพาโน่ครีมเจลนี้ เค้าชอบมากค่ะ เพราะทาแล้วซึมสู่ผิวได้ทันที เป็นครีมกึ่งเจลใสๆ ไม่เหนอะเหมือนครีมอื่นๆค่ะ ทาหลังล้างหน้า เช้า-เย็น ช่วยลดรอยสิว ผิวกระจ่างใสขึ้น แล้วก็ช่วยให้หลุมสิวแลดูตื้นขึ้นด้วย อันนี้แม่ก็ใช้กับลูกด้วยค่ะ แม่ใช้ทาอันนี้เป็นบำรุงก่อนแต่งหน้า รู้สึกเครื่องสำอางติดทนขึ้นนะคะ ระหว่างวันไม่ต้องตบแป้งทับ เพราะหน้าไม่เยิ้มแบบก่อนนี้ค่ะ 

            ส่วนครีมกันแดด ลูกชายจะใช้ Biore Aqua สลับกับ ครีมกันแดดของWelpano ค่ะ เมื่อก่อนเค้าใช้Biore มาตลอดซื้อมาตุนไว้เยอะตอนไปญี่ปุ่น แต่เมื่อwelpano วางจำหน่ายครีมกันแดดเมื่อปีที่แล้ว เป็นครีมกันแดดสำหรับผิวแพ้ง่าย ไม่อุดตัน ระหว่างวันช่วยคุมความมันด้วย เห็นเป็นSPF50 PA+++ แม่เลยซื้อให้เค้าลองใช้ ปรากฏว่า เค้าใช้แล้วชอบรวมถึงไม่ก่อสิวใหม่ด้วยค่ะ ทาแล้วหน้าไม่วอก  น้องเค้าไม่ได้ทาแป้งฝุุ่น พอทากันแดดก็ออกไปมหาลัยได้เลย 

           ช่วงที่เค้ามีสิวหัวช้าง สิวไตๆไม่มีหัวค่อนข้างเยอะ แม่ให้เค้าแต้มสิวด้วย Welpano Acne gel ลดอักเสบได้ดีมาก แต้มตรงหัวสิวก่อนนอน ต่อจากเวลพาโน่ครีมเจล เห็นลูกชายแต้มสิว 2-3 คืน ก็เริ่มๆยุบค่ะ แต่เม็ดไหนที่หัวสิวใหญ่ เหมือนว่าข้างนอกมี 1 หัว แต่ข้างในเวลาจับๆดูเหมือนเป็น2-3 หัวรวมอยู่ในหัวเดียว แบบนั้นจะใชเวลานานหน่อยค่ะ 

         และนี่ก็เป็นผลลัพธ์ หลังจากใช้ผลิตภัณฑ์ตามที่คุณแม่ได้สรุปมาทั้งหมดค่ะ สิวหายเกลี้ยง รอยสิวหายหมดค่ะ หน้าเค้าก็ดูใสขึ้นนะคะ จนเพื่อนๆลูกก็ทักว่าทำอะไรมาหน้าดีขึ้น และแม่ก็ได้แนะนำเพื่อนๆแม่ไปหลายท่านค่ะ เพราะใครมีปัญหาผิว เราก็อยากแบ่งปันให้เค้าดีขึ้นอ่ะเนอะ  คุณแม่และลูกๆทุกคนลองนำไปปรับใช้กับผลิตภัณฑ์เดิมที่ใช้อยู่นะคะ เผื่อจะเป็นประโยชน์ค่ะ 

          ทุกวันนี้สิวยุบหมดแล้ว แม่ก็ให้เค้า งดคลินด้าเอ็ม กับ เวลพาโน่แอคเน่เจลตอนนี้ก็มีที่ใช้อยู่ทุกวันเป็นประจำ ก็คือ เวลพาโน่โลชั่นก่อนล้างหน้า,,เวลพาโน่ครีมเจล,,สบู่เหลวล้างหน้าแอคเน่เอด(ขวดสีแดง),,ครีมกันแดดเวลพาโน่ เท่านี้ค่ะ  

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

รีวิวสุดท้ายสำหรับกระทู้นี้ รีวิวที่4 

 สวัสดีค่ะ สำหรับวันนี้เป็นรีวิวที่่ตื่นเต้นมากที่สุด เพราะพี่วิวรู้สึกว่า ตอนที่เห็นผู้ใช้เวลพาโน่ท่านนี้ ส่งรูปรีวิวมาเป็นระยะๆให้พี่วิวดูทางแชทอินบ๊อกในกล่องข้อความเพจ   พี่วิวเองยังรู้สึกว่า ฮู้ยยย.....ผิวดีขึ้นชัดเจนจริงๆนะ นี่ใช่มั้ยที่เค้าเรียกกันว่า ตามหามานาน กับไอเทมเด็ดคู่ใจ  ฟื้นผิวได้จริงซักที((ไม่ใช่แค่เรื่องในฝันลมๆแล้งๆอีกต่อไป)) 

รวมถึงผู้ใช้ เวลพาโน่ท่านนี้ ก็รู้สึกขอบคุณเวลพาโน่ ที่มีส่วนช่วยให้ผิวดีขึ้น ทำให้สิวหาย ผิวกลับมาใสแบบเดิม ดีใจมาก ^______^ ลูกค้ากล่าว ใครเห็นก็ทักว่าทำอะไรมา วันนี้เลยไม่ลังเลใจที่จะเขียนรีวิวแบ่งปันให้ค่ะ แฮร่ๆๆท่านนี้สวย-เก่ง แล้วยังใจดีแบ่งปันอีกอ่ะ

          เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา พี่วิวว่าจังหวะนี้ คงมีหลายท่านตั้งตาคอยดูการแบ่งปันประสบการณ์ดูแลผิวของผู้ใช้welpanoท่านนี้แล้วแหละค่ะ  มาอ่านคำรีวิวจากผู้ใช้เวลพาโน่ท่านนี้กันเลยนะคะ ==++==++==

------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

           สวัสดีค่ะ ขออนุญาตแทนตัวเองว่า เรา ล่ะกันนะคะ ปกติไม่เคยเผยหน้าสิวให้ใครดูเลย ฮือๆๆเขิลจุง T--T ปกติเวลาไปข้างนอกบ้าน จะปิดBB ตลอดค่ะ แต่มาพักหลังสิวโถมเข้ามา จนBB ก็เอาไม่อยู่ค่ะ เพราะสิวปูดๆเต็มเลย ปิดยังไงก็ไม่เนียน เราว่ายื่งปิดสิวก็ยิ่งขึ้นนะ เพราะมันอุดตันหนักมาก 

ครั้งนี้ถือว่าพลีชีพรีวิวเลยก็ว่าได้ เพื่อเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆที่มีปัญหาผิวคล้ายเรา เข้าใจหัวอกคนเป็นสิวค่ะว่ามันเครียดขนาดไหน  

          ขอท้าวความก่อนน๊าาา เริ่มแรกสิวมาตอนที่เราไปเรียนต่อต่างประเทศ ช่วงเดือนเมษา(ปีที่แล้ว)ค่ะ ก่อนไปหน้าก็ยังดีๆอยู่เลยนะ ปกติจะเป็นสิวแค่   1-2เม็ดขึ้นเวลามีประจำเดือนเท่านั้นค่ะ ส่วนตัวไม่เคยใช้ครีมอันตราย หรือครีมสเตียรอยด์ใดๆนะคะ เพราะจะระวังมาก เรื่องใช้ครีม ก็จะใช้พวกเคาเตอร์แบรนด์มาโดยตลอดและก็ใช้แบรนด์เดิมไม่เคยเปลี่ยนนานมากแล้วค่ะ แต่อยู่ๆสิวอุดตันก็เริ่มขึ้นมาบริเวณขอบหน้าก่อนค่ะ จากนั้นเริ่มลามมาบริเวณแก้ม เริ่มเยอะขึ้นๆ จากนั้นลามมาที่หน้าผาก 

          ตอนนั้นเครียดมาก และอยู่ต่างประเทศด้วย ถ้าจะไปหาหมอผิวหนังที่โน่นก็คิดว่าค่าใช้จ่ายน่าจะแพงเอาเรื่องอยู่ ตอนนั้นก็พยายามปล่อยวางค่ะ พยายามไม่ไปจับ ไม่บีบแกะ แล้วก็ใช้สกินแคร์เคาเตอร์แบรนด์แบบเดิมต่อไปตามที่เคยใช้ค่ะ แต่สิวก็ไม่มีวี่แววว่าจะลดลงเลย เราเลยสันนิษฐานว่า เราน่าจะแพ้น้ำ และแพ้อากาศที่นี่ค่ะ เพราะอากาศหนาว บางทีต้องเปิดฮีตเตอร์ช่วย ผิวเราเลยสับสนมั้งคะ เดี๋ยวหนาว เดี๋ยวร้อน 555++ สิวผดเลยขึ้น บางวันก็คันหน้ายิบๆ โอ๊ยยย นึกแล้วกลุ้มจายจุง 

           จากนั้น เมื่อกลับไทยมาเดือนมีนา(ปีนี้) ก็เริ่มเข้าคลินิกรักษาสิวแห่งหนึ่งค่ะ ก็มีกดสิว ฉีดสิว ทีนี้เหมือนเวลากดสิวน่าจะกดออกไม่หมดค่ะ เลยทำให้สิวอักเสบเริ่มทยอยตามมา(จากเมื่อก่อนมีแค่สิวอุดตัน) รักษาที่่คลินิกอยู่ประมาณ 3เดือนได้ค่ะ แต่รู้สึกหน้ายิ่งบอบช้ำ รอยดำก็เยอะค่ะ เราเลยเลิกไปคลินิก แล้วตอนกดสิวก็เจ็บมาก น้ำตาไหลซิบๆตลอดเลย ไม่รู้เพื่อนคนอื่นเคยมีฟิวส์นี้มั้ย 

            อันนี้ก็เป็นภาพที่เราถ่ายเก็บไว้เรื่่อยๆตั้งแต่ที่เริ่มเป็น จนกระทั่งหนักขึ้นเรื่อยๆ และภาพสุดท้ายนี่แหละที่เคยเป็นภาพในฝันของเราว่า มันต้องมีทางที่ผิวจะกลับมาใสแบบเดิมสิ และแล้ว ฝันก็เป็นจริง สาบานว่าไม่ใช้แอฟแต่อย่างใด หน้าสดๆชัดๆค่ะ (เราเองยังอึ้งกับตัวเองเหมือนกันนะ ว่าผิวจะกลับมาใสได้แบบนี้เลย แต่คือเรื่องจริง เลยพร้อมรีวิวล่ะ) ประมาณ5-6เดือนเต็มๆที่สู้รบกับสิว 

          แล้วเดี๋ยวมาดูกันค่ะ ว่าเราใช้ไปไอเทมไหนในการดูแลผิวตัวเองบ้าง 

ปล.ที่เรากำลังแบ่งปันประสบการณ์นี้ คือ เราใช้จริงและหายจริง แต่สำหรับผิวหน้าของเพื่อนๆ ปัญหาผิวอาจจะไม่เหมือนเรา ดังนั้นลองปรึกษาคุณวิวดูก่อนก็ได้ค่ะ ว่าสามารถใช้ได้มั้ย คุณวิวเค้าใจดี อธิบายดีมาก ดูแลจนกระทั่งผิวเราดีขึ้น ((ไม่ได้อวยค่ะ เรื่องจริงทั้งนั้น)

       พอช่วงที่กลับมาไทย ก็คิดว่า จะหยุดใช้ครีมบำรุงเคาเตอร์แบรนด์ทั้งหมดที่เคยใช้ แล้วซื้อยาทาสิวจากร้านยาเท่านั้น เพราะเราต้องการกำจัดสิวซักตั้งนึงให้หายดีก่อน 

        เราจึงปฏิบัติการกำจัดสิว ไปซื้อยาทาสิวมาจากร้านยาเภสัชกรใกล้ๆบ้าน ก็แนะนำให้เราใช้ยารักษาสิว 2อย่าง คือ Clinda-m(แต้มตรงสิวอักเสบทีมีหนอง) และ Robaz gel (ทาตรงสิวผด) แล้วเราก็ซื้อ Acne-aid สีแดงตามรีวิวของเพื่อนๆในพันทิปมาใช้ล้างหน้าเช้า-เย็น ตอนแรกเราใช้เท่านี้ เพราะครีมบำรุง กันแดดอะไรก็ไม่แตะเลย คือกลัวสิวอุดตันมาก

                                  ......................................

                                        ..........................

เราใช้ Acne-aid ,,, Clinda-m ,,,, Robaz gel ทั้งหมด 3 อย่างนี้ ใช้ต่อเนื่องมาประมาณ 2 เดือน (สิงหา) ก็รู้สึกว่าสิวไม่เพิ่ม สิวเริ่มลดลง แต่ว่ารอยดำเพี๊ยบ แถมมีปัญหาหน้าหมองคล้ำ และหยาบกร้าน เพราะผิวน่าจะขาดการบำรุงและเราไม่ยอมทาครีมกันแดด เพราะครีมกันแดดแบรนด์เดิมที่เราใช้ค่อนข้างเหนอะ เราเลยไม่กล้าทา เพราะกลัวสิวบุกหนัก 

                                   .....................................................

                                            ...................................

        จากนั้นเราก็เลยตั้งใจหาสกินแคร์ที่เหมาะกับผิวแพ้ง่ายจริงๆเหมาะกับคนที่เป็นสิวง่าย เพื่อมาใช้บำรุงผิว ควบคู่กับยาทาสิว เราศึกษาสกินแคร์เพื่อบำรุงผิวด้วยตนเอง ก็มาเจอข้อมูลแบรนด์welpano เคลมว่า ปราศจากแอลกอฮอล์ พาราเบน และน้ำหอม เราเลยสนใจ 

         ก่อนนี้เรารู้จักแบรนด์เวชสำอางwelpano มาจากรีวิวนึงในพันทิป จากนั้นก็เริ่มศึกษามาเรื่อยๆว่าเป็นแบรนด์อะไร ปลอดภัยมั้ย เพราะเราไม่กล้าเลือกครีมตามอินเตอร์เน็ต เพราะสมัยนี้ขายกันเกลื่อน บางทีก็กลัวหน้าพังซ้ำพังซ้อน พอศึกษาแล้วดูยูปทูปที่คุณวิวเจ้าของแบรนด์เค้าแนะนำการดูแลผิว แล้วก็ทราบว่าผลิตภัณฑ์นี้มีจำหน่ายที่ร้านขายยาด้วยก็ดูน่าเชื่อถือ แล้วผลิตภัณฑ์นี้เค้าก็มีผ่านdermatologit-tested และมี อย.ชัดเจน แต่เราไม่สะดวกเดินทางไปร้านตามจุดจำหน่าย เราเลยสั่งซื้อทางออนไลน์ line: @welpano เค้าส่งสินค้ามาให้เราไวมาก ราวกับเดินทางไปซื้อเองที่ร้านเลย   

          สำหรับผลิตภัณฑ์สกินแคร์ที่เราใช้กำจัดสิว และฟื้นผิวครั้งใหญ่ในชีวิตนี้ก็ว่าได้ มีตามนี้จ้าาา 

          1) Welpano extra sensitive lotion cleanser

ปั๊มลงสำลี และแตะที่หน้า5จุด ใช้เช็ดก่อนล้างหน้าตอนเย็น เราใช้แล้วรู้สึกดีกว่าแบบWater เพราะว่าอันนี้เป็นโลชั่น เวลาเช็ดไม่ฝืดผิว ทำให้ไม่ระคายเคือง รู้สึกสิวไม่เห่อ แล้วก็ชอบตรงที่สิวเม็ดเล็กๆหลุดติดสำลีมาเลย ดีงามแฮะ อันนี้น่าจะเป็นจุดที่เราคิดว่าแตกต่างจากคลีนเซอร์ทั่วๆไป 

              2) สำหรับล้างหน้า เราใช้สลับกัน ดังนี้ 

ตอนเช้า >> เราว่าผิวไม่ได้สกปรกอะไร ต้องการความอ่อนโยนมากกว่า ก็ใช้ Welpano facial liquid cleanser ล้างหน้าตอนเช้า มีฟองละมุนนิดๆ เข้าตาไม่แสบ 

ตอนเย็น >> หน้าเจอฝุ่นจากที่ทำงานมาเยอะ เราเลยใช้ Acne-aid ขวดสีแดง อันนี้ล้างแล้วจะรู้สึกผิวแห้งตึงกว่า Welpano liquid cleaser นิดนึง แต่ลักษณะภายนอกคล้ายๆกัน คือ เป็นลิควิดขุ่นๆสีขาว 

                3) น้ำเกลือ Klean & Kare 

ซื้อจากร้านยา ใช้เช็ดแทนโทนเนอร์หลังล้างหน้า เช้า&เย็น จริงๆก่อนหน้านี้เราเคยใช้โทนเนอร์แบรนด์นึงที่เป็นเวชำอางเหมือนกัน แต่รู้สึกแสบหน้า เลยลองเปลี่ยนมาเป็นน้ำเกลืออันนี้แทน ก็รู้สึกสบายผิวดีค่ะ 

แต่บางวันรีบๆ ก็ขี้เกียจเช็ด555++ 

                     4) Clinda-m 

ซื้อมาจากร้านยา ทาตรงสิวหนอง เช้า&เย็น ทาอันดับแรกเลย หลังจากเช็ดน้ำเกลือ

                            5) Welpano whitening cream-gel  

ทาทั่วหน้า เช้า-เย็น ทาต่อจากคลินด้าเอ็ม จากที่อ่านข้อมูลมา เป็น           ครีมเจลบำรุงผิว ไวท์เทนนิ่งสำหรับผิวแพ้ง่ายโดยเฉพาะ จากที่ใช้มาซักพัก 3 เดือนต่อเนื่อง รู้สึกเลยว่า อ่อนโยนจริงๆ เราใช้อันนี้ทารอบดวงตาด้วย ไม่แสบตานะ อันนี้ช่วยเติมน้ำให้ผิว ทำให้ผิวเราไม่หยาบกร้าน ไม่เหนอะ และไม่แห้งจนเกินไป ก็ลงตัวดีนะ ชอบที่ทาอันนี้ขั้นตอนเดียว แทนครีมบำรุงอื่นๆเลย ช่วยให้รอยสิวจางไว แล้วก็รอยแผลเดิมจากที่เคยบอบช้ำจากการกดสิวมา ก็เริ่มจางค่ะ ปลื้มๆ ไม่ผสมน้ำหอม ไม่มีแอลกอฮอล์อ่ะ 

แม้ว่าตอนนี้สิวหาย หน้าใสแล้ว เราก็ยังคงใช้เวลพาโน่อันนี้เป็นครีมเจลทาบำรุงผิว ทายาวๆไปเลย อ่อนโยนดี ชอบๆ

                     6) Robaz gel 

ซื้อมาจากร้านยา ค่ะ อันนี้ช่วยลดสิวผด ทาต่อจากWelpano cream-gel   เช้า เย็น ถ้าผดหายก็หยุดทาได้เลย 

                          7) Welpano acne gel 

เราใช้แต้มหัวสิวที่บวมๆแดงๆ ที่คลินด้าเอ็มปราบไม่อยู่                               แต้มสิวด้วยWelpano acne gel อยู่หมัดเลย 555++ เวลาแแต้มจะรู้สึกจี๊ดๆนิดนึงนะ กลางคืนแต้ม เช้ามาก็เริ่มยุบล่ะ 

                          8) Mederma intense gel 

พอสิวหายแล้ว ก็ค่อนข้างใจร้อนนิดนึง อยากให้รอยจางไวๆ ก็ใช้Mederma แต้มเฉพาะตรงรอย อย่าทาเยอะนะ เราเคยพอกเยอะๆปรากฏผิวจะลอกๆ     ใช้มาตั้งแต่เป็นหลอดรุ่นเดิม จนตอนนี้เค้าปรับเป็นสูตรนี้ล่ะ เราว่าเป็นเจลลดรอยสิวที่เราชอบมากสุดแล้ว ตั้งแต่ที่เคยลองหลายๆยี่ห้อจากร้านยา 

                              9) Welpano facial sunscreen SPF50 PA+++                                                           Extra light cream 

เนื้อครีมบางเบาสมชื่อดีนะคะ  อยากบอกว่าครีมกันแดดแบบนี้แหละที่เราตามหามานาน แอบน้อยใจ รู้งี้น่าจะเจอกันตั้งนานล่ะ อันนี้เราซื้อตุนทีละ 3 หลอด (กลัวหมด) มีSPFสูง และไม่ระคายเคืองผิว ไม่อุดตัน แถมคุมความมันได้ดี เพราะเราไม่อยากตบแป้งระหว่างวัน เพราะถ้าตบแป้งก็คิดว่าว่าจะสกปรก เลยพยายามหาครีมกันแดดที่คุมความมันได้ดี  เราทำงานบางทีต้องออกแดด แต่เหงื่อออก แต่หน้าไม่เยิ้มเป็นคราบขาว  ชอบตรงที่มีบำรุงลดรอยอยู่ในหลอดครีมกันแดดนี้ด้วยนะ 

ร่ายมาซะยาวเลยเนอะ อันนี้ก็เป็นทริคการดูแลผิวของเราค่ะ หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆบ้างนะคะ เป็นกำลังใจให้ทุกคนที่กำลังท้อ ให้คิดเสมอว่า ฟ้าหลังฝน ย่อมดีงามเสมอ ^______^ เพียงแต่ค้นหาไอเทมที่เหมาะกับผิวให้เจอ เป็นได้ก็หายได้ ดูอย่างผิวเราสิ เป็นหนักๆหน้าแหกมา ยังฟื้นได้เลย 

อ้อออ.......อีกเรื่องที่อยากฝากเพื่อนๆค่ะ เรื่องระยะเวลาในการเริ่มต้นดูแลผิว เราว่าก็มีส่วนสำคัญนะ อย่าปล่อยให้เป็นเยอะๆแล้วเพิ่งจะมาใส่ใจผิว เพราะมันจะเหนื่อยมาก เพราะตอนแรกก็ชะล่าใจคิดว่าเป็นอุดตันนิดเดียว สักพักเจ้าสิวมักจะพาเพื่อนมาเป็นขบวนถ้าเราไม่ตั้งหลักรับมือดีๆ  สู้ๆค่ะ ^^ 

 
Like