หน้าหลัก > ข่าวสารและความรู้ > [The Best Of Review]สิ้นสุดการรอคอย ที่สุดของรีวิว ติดสาร-แพ้-พัง จบสิ้นยุคสิว..ที่แสนโหดร้าย!!!
[The Best Of Review]สิ้นสุดการรอคอย ที่สุดของรีวิว ติดสาร-แพ้-พัง จบสิ้นยุคสิว..ที่แสนโหดร้าย!!!
[The Best Of Review]สิ้นสุดการรอคอย ที่สุดของรีวิว ติดสาร-แพ้-พัง จบสิ้นยุคสิว..ที่แสนโหดร้าย!!!
17 Apr, 2017 / By welpano
Images/Blog/4454083-4.jpg

      สวัสดีค่าา มาแล้ววว 1ปีมีหนเดียว พลาดไม่ได้จริงๆ  หลังจากเล่นน้ำสงกรานต์มานี้ พี่วิวรู้ดีเลยว่า หลายคนหน้าพังหนักมาก ไม่รู้จะใส่ ก.ไก่กี่ตัว 55++ จากการแพ้น้ำ หรือแพ้แดด หรือยังหาครีม/สกินแคร์คู่ใจยังไม่เจอก็ตาม พี่วิวตั้งใจรวมรีวิวเด็ดๆมาฝากทุกคนค่ะ ปัญหาผิวของใครคล้ายคลึง หรือเหมือนกับรีวิวไหน ก็จัดกันตามนั้นนะคะ 

       แต่ถ้ายังไม่แน่ใจว่าจะใช้อะไรดี สามารถแอดไลน์ @welpano (มี@นำหน้า) มาปรึกษาพี่วิวได้เสมอค่ะ   พร้อมแล้ว....ลุยเลย!! 

 

***************เรื่องที่ 1 **************  

   สวัสดีค่ะ เราชื่อ ซีน ขอแทนตัวเองว่าเรานะคะ  วันนี้อยากมาแชร์ประสบการณ์ลองผิดลองถูก จนกระทั่งมาเจอไอเทมบำรุงผิวหน้า จากหน้าสิวประทุ  กลายเป็นหน้าคนปกติ  เพราะซีนเป็นสิวมา 13 ปีแล้วค่ะ ขึ้นประปรายตลอดไม่เคยหายขาด หาหมอคลินิคและโรงพยาบาลมาตลอด13ปีที่ผ่านมานี้ ตั้งแต่สมัยเรียนมัธยมจนกระทั่งเข้าสู่วัยทำงาน ก็ใช้แต่ยารักษาสิวและไม่เคยบำรุงหน้าเลยค่ะ เพราะฝังใจกลัวว่าครีมบำรุงจะทำให้แพ้และสิวขึ้น เมื่อก่อนจะใช้แค่แป้งน้ำทา ก็ทำให้สิวแห้งมาติดต่อกัน7ปี ก็ช่วยให้สิวยุบจริงๆนะคะ แต่หน้าแห้งมากเป็นขุยๆและเหี่ยว พอยิ้มทีนึงจะมีริ้วรอย ทาแป้งฝุ่นจะเป็นคราบเพราะหน้าแห้งเนี่ยแหละค่ะ แล้วเราสังเกตว่าหน้าก็จะผลิตน้ำมันออกมามากด้วย  ปัญหาผิวนี้ส่งผลกระทบมาตลอดจากการที่เราไม่บำรุงผิวหน้าเลยนี่แหละค่ะ

   ด้วยความที่เริ่มเบื่อกับการใช้ยาหมอ  เพราะเราทำงานยุ่งๆก็ไม่มีเวลาไปพบหมอตามนัด และบางช่วงสิวเห่อหนักมาก ทั้งๆที่ปฏิบัติตัวแบบเดิมทุกอย่าง  ประกอบกับอยากหาผลิตภัณฑ์บำรุงผิวมาช่วยฟื้นผิวให้แข็งแรงขึ้นจริงๆ อารมณ์แบบว่าอยากหน้าใสแบบคนอื่นบ้าง    ก็เลยตัดสินใจไม่หาหมอ เราก็ไม่นิ่งดูดายน๊า  ก็เริ่มปฏิบัติการตามล่าลองหาผลิตภัณฑ์บำรุงหน้ามาเรื่อยๆเพื่อให้หน้าดูอิ่มน้ำบ้าง  อะไรที่ใครว่าดีก็หามาใช้หมด แต่เราก็แพ้มาเรื่อยๆเลยค่ะ เราคิดว่าน่าจะเกิดจากผิวไม่แข็งแรง  เราเห็นคนรีวิวกันก็เริ่มลองใช้ตามเค้า   เริ่มตั้งแต่ใช้โยเกิตพอกหน้า แต่เรานิสัยเสียคือทำแล้วถ้าหายช้าเราจะรู้สึกว่ามันไม่ได้ผล มักจะทนได้ไม่ถึงเดือนก็ต้องเลิกใช้ ผลจากการพอกหน้าด้วยโยเกิร์ต  คือ ทำให้หน้านุ่มเลย แต่ไม่ได้ช่วยเรื่องสิว

ก็เลยมาหาตัวช่วยที่รักษาสิวไปด้วย คิดเองเออเองว่าต้องดีท็อกผิวหน้า ก็เลยมาใช้มาร์คชาเขียว มาร์คดินภูเขาไฟ  ก็มาร์คต่อเนื่องเป็นอาทิตย์นะคะ โอ้วพระเจ้า+++ แต่พอหยุดมาร์คไปไม่กี่วัน หน้าก็แหกอีกรอบค่ะ เรียกว่า ไม่มีที่จะให้สิวขึ้นอีกแล้ว เพราะขึ้นเกือบทุกรูขุมขนจริงๆ  หน้าก็แห้งขึ้น เราใช้แค่สองอาทิตย์ก็ยอมแพ้ชะตากรรม  นี่เลยค่ะ ที่สิวขึ้นหนักๆ (คิดในใจว่า ซวยแล้วเราผิวน่าจะติดสารมาแน่ๆเลย เพราะสิวขึ้นหนักสุดในชีวิตล่ะ)

   จากนั้นก็หยุดใช้ทุกอย่าง ใช้ว่านหางจระเข้ เพราะอยากพักหน้า  ไม่ใช้อะไรมาเป็นเดือนๆ หน้าแห้งลอก สิวเห่อ เรียกได้ว่าช่วงนี้ปัญหาผิวมารุมครบ น่าจะเป็นเพราะผิวหนังข้างในถูกทำลายและไม่ได้รับการดูแลมานาน  จนกระทั่งมาเจอรีวิวพอกหน้าด้วยไข่ขาวเพื่อพักหน้าจากผิวติดสาร  เราก็ใช้มาต่อเนื่องเกือบเดือน หน้าดีขึ้นมากค่ะ สิวแห้ง รูขุมขนกระชับ ไม่รู้ว่าคิดไปเองรึเปล่า ก็ภูมิใจกันไป 555++ปลอบใจตัวเอง  

   แต่ๆๆๆหลังจากนั้นอีกประมาณ 1อาทิตย์ จากหน้าสิวประปรายของเราหายไป กลายเป็นสิวประทุใหญ่แห่กันมาขึ้นเป็นขบวนอีกระรอกนึง   เราไม่รู้ว่าแพ้ครีมหรือแพ้ไข่ขาวกันแน่  ชีวิตเริ่มสับสนไปหมด ไม่รู้จะเดินไปทางไหนดี  แต่พอมานึกทบทวนดูว่า น่าจะเกิดจากเรากระเทาะไข่ใส่ถ้วยรอไว้ค้างคืน พอใช้ไม่หมดก็เก็บไปใช้ครั้งถัดๆไป ก็เลยน่าจะติดเชื้อแบคทีเรียด้วยค่ะ  คือสิวอักเสบเจ็บๆเยอะมาก   

   ถึงทางตันก็เลยตัดสินใจไปเลเซอร์เปิดหัวสิวที่คลินิคกับลบรอยแดง  หลังทำเลเซอร์มาใหม่ๆก็ได้ผลอยู่นะคะ สิวเก่าลดลงมาก  แต่ๆๆๆๆสิวใหม่ก็ขึ้นมาไม่ขาดสาย   เม็ดนี้ยุบ   เม็ดนี้ขึ้น สลับกันเรื่อยๆ  หมอบอกว่าให้มาเลเซอร์อีกสัก 2--3ครั้งจะเห็นผล แต่เราเจอครั้งเดียวก็หมดเงินไปเยอะ รวมทั้งก่อนหน้าที่เราหาใช้ครีมหมอมาตลอด และตามล่าหาครีมบำรุงเรื่อยๆแต่ยังไม่เจอที่ชอบใจสักที  และมาแพ้ซ้ำอีกทำให้ครั้งนี้หมดเงินไปเยอะมากเกือบจะถึงแสนแล้วมั๊ง  และก็สอนให้เรารู้ว่าต้องอดทนและใช้เป็นอย่างๆไป ไม่โลเลเปลี่ยนไปมา

   จากคนร่าเริงก็กลายเป็นคนที่ยิ้มยาก จิตใจห่อเหี่ยวมาก เพราะไม่สบายใจเรื่องผิวหน้าเลย อีกอย่างคือ ไม่อยากให้คุณแม่เครียดด้วยค่ะ คุณแม่จะค่อนข้างกังวลกับปัญหาผิวหน้าของเรามากๆๆๆๆ (แม่กังวลกว่าเราซะด้วยซ้ำ)

   มีอยู่วันนึง  ที่เราไปร่วมกิจกรรมกับบริษัทที่ทำงานอยู่  ไปทาสีโรงเรียน วันนั้นคงเจอทั้งแดดทั้งสี สารระเหย ทินเนอร์ต่างๆนานากลายเปนแบบนี้ค่ะ พังมาก ชีวิต คิดอะไรไม่ออกเราซื้อที่บีบสิวมาก่อนเลย คิดว่าต้องเอามันออกมาก่อน รับไม่ได้แล้ว อยู่บนหน้าอย่างเดียวไม่พอ เราล้างหน้าไม่ได้เลย เจ็บมาก เวลาก้มหน้าเหมือนเลือดไปเลี้ยงตรงสิว ปวดตึ้บๆ 

   เลยกลับบ้านไปหาแม่ที่ต่างจังหวัด ก็คุยกันแม่ลูก  แม่ก็เล่าให้ฟังว่าเคยอ่านกระทู้นึงที่ชื่อ อวสารหน้าสิว ประมาณว่าคุณแม่ท่านนึงหาผลิตภัณฑ์ที่ช่วยตอบโจทย์ดูแลผิวหน้าลูกชายก่อนเข้ามหาลัย แล้วหน้าใส แม่เราค่อนข้างกังวลและสงสารเนื่องจากครั้งนี้หนักที่สุดที่เคยเป็นมา แม่เราให้เราทักไลน์ไปหาพี่วิว (เภสัชกร)เจ้าของแบรนเวลพาโน่  เพื่อสอบถามอาการและคำแนะนำ   ตอนแรกยอมรับเลยว่าเราค่อนข้างไม่เชื่อ   เพราะคิดว่าเขาน่าจะตอบช้า  แต่ไหนๆก็ลองดู  แม่เราบอกว่าใช้ครีมนี้เป็นตัวสุดท้าย  ถ้าไม่หายหรือไม่ดีขึ้นก็จะให้เลิกใช้ทุกอย่างดูวิธีธรรมชาติบำบัด ให้เรากลับสู่สิ่งที่เราเป็นมา  คือไม่ต้องใช้อะไรอีกต่อไป

   เราก็ทักพี่วิวไป ไม่เกิน5นาทีพี่วิวก็ตอบ ตอบค่อนข้างเร็ว พี่วิวก็ให้เราถ่ายรูปผิวให้ดู ก็ลองใช้ดู เราค่อนข้างเป็นกังวล ทักไปถามพี่วิวบ่อยมาก พี่วิวก็บอกส่งเป็นคลิปเสียงมาทางไลน์บ้าง พิมพ์ข้อความมาบ้าง บอกให้เราอดทนและคอยแนะนำอย่างละเอียดตลอด พี่วิวบอกให้เรานึกถึงวันที่หน้าใสขึ้น รู้สึกมีกำลังใจขึ้นมาก

   สำหรับผลิตภัณฑ์ที่เราใช้ดูแลผิวทั้งหมดมีตามภาพนี้ จากหน้าสิวประทุ  กลายเป็นหน้าคนปกติ  ที่ผ่านๆมาเรารบกับสิวไม่เคยชนะเลย มีครั้งนี้แหละที่สุดท้ายเราก็ชนะเจ้าสิวขาดรอย นึกเยอะเย้ยเจ้าสิวเบาๆ สะใจจริงๆค่ะ  รู้มั้ยว่า….วันแรกที่เริ่มรู้สึกถึงวี่แววพัฒนาการของสิวที่ดีขึ้นนั้น วันนั้นน้ำตาไหลเลย คือ พูดกับตัวเองว่า นี่แหละที่เราตามหามานาน  เราใช้ผลิตภัณฑ์ทั้งหมดนี้ในการดูแลผิว  ตามภาพค่ะ 

   ก่อนล้างหน้า ทั้งเช้าและเย็น เราจะใช้ที่เช็ดหน้าของเวลพาโน่ เค้าชื่อว่า Welpano lotion cleanser สองอาทิตย์แรก สิวเสี้ยนหลุดตามมา จนตอนนี้ที่จมูกไม่มีสิวเสี้ยนแล้วค่ะ สิวอุดตันก็ลดลงมากด้วย ไม่ต้องไปกดสิวให้เจ็บแบบเมื่อก่อน เพราะใช้โลชั่นนี้แล้วสิวอุดตันหลุดง่ายมาก 

   จากนั้นก็จะล้างหน้าด้วย Welpano liquid cleanser ปั๊มลงฝ่ามือ 1-2ปั๊มต่อการล้างหน้า 1ครั้ง จากนั้นผสมน้ำเล็กน้อย ฟอกให้เกิดฟอง ชอบตรงที่อ่อนโยนสุดๆ เข้าตาไม่แสบ แล้วสิวไม่ขึ้นใหม่ด้วย รู้สึกว่าผิวสะอาดน่าจะเป็นจุดเริ่มต้นของการชนะเจ้าสิว

   เรามีสิวอุดตันค่อนข้างมาก และสิวหัวหนองสุกพร้อมจะหลุดแล้วก็เยอะ เลยจัดการรีดเอาสิวหนองออก  แต่เราไม่ใช้มือบีบนะคะเพราะวิธีนั้นเคยทำแล้วช้ำมาก  เราเลยใช้คัตตัดบัต2อันประกบกัน แล้วรีดหนองออก จนหัวสิวอุดตันด้านไหนหลุดออกมา  หลังจากนั้นเราใช้น้ำเกลือเช็ด เพื่อฆ่าเชื้อแผลด้วย แต่วันปกติก็ใช้น้ำเกลือเช็ดหลังล้างหน้าแทนโทนเนอร์อยู่แล้ว  

   หลังเช็ดหน้าด้วยน้ำเกลือ ก็จะทา Clinda-m เพื่อฆ่าเชื้อสิวหนอง จริงๆแล้วฉลากข้างผลิตภัณฑ์เค้าให้ทาเฉพาะตรงสิว แต่เรามีสิวขึ้นทั่วหน้า ก็เลยทาคลินด้าเอ็มทั่วหน้าเลย 

   จากนั้นทาไวท์เทนนิ่งครีมเจลของเวลพาโน่    ไวเทนนิ่งครีมเจลของเวลพาโน่ตอบโจทย์เรามาก หน้าเราไม่แห้งเลย ไม่ระคายเคืองเลย เป็นWhiteningที่สามารถใช้ได้ในผิวแพ้ง่ายหรือผิวที่ยังเป็นสิวอยู่ก็ใช้ได้  หน้าดูเหมือนคนปกติก็เพราะไอเทมนี้เลยที่ช่วยบำรุงและฟื้นผิวให้ผิวเราแข็งแรงขึ้น รอยแดงที่หน้าก็จางลง เพราะเมื่อก่อนหน้าจะแดงอักเสบตลอดเวลา ครีมเจลนี้ไม่ผสมน้ำหอม ไม่มีแอกออฮอล์ ทาแล้วรู้สึกเบา สบายผิวดีค่ะ เพราะเป็นครีมเจลที่ซึมสู่ผิวไว ซีนใช้ทารอบดวงตาด้วย  ทาเช้า-ก่อนนอน  

   แต่ก่อนจะปีใหม่นี้เป็นช่วงหน้าหนาว หน้าก็จะแห้งมากกว่าปกติ เราจะทามอยเจอร์ร่วมด้วย เราเลือกใช้ Physiogel Ai Cream ทาก่อนนอนต่อจากเวลพาโน่ครีมเจล แต่ถ้าช่วงไหนที่หน้าไม่ได้แห้งลอกมากนัก ก็จะไม่ใช้ เพราะถ้าทามอยเจอร์มากไปสิวมักจะขึ้นใหม่

   ตามด้วยแอคเน่เจลของเวลพาโน่ เราใช้แต้มตรงหัวสิวที่อักเสบ แต้มทีละหัวๆสิว ก่อนนอน ตรงหัวสิวที่เป็นไตๆแข็งๆเมื่อแต้มไปก็นิ่มลง สิวยุบลงอย่างเห็นได้ชัด

   ส่วนครีมกันแดดสำหรับเราหาที่ถูกใจค่อนข้างยาก เพราะเราผิวแพ้ง่ายสุดๆ มาครั้งนี้ที่ใช้ Welpanoครบเซตก็ได้มีโอกาสลองใช้ครีมกันแดดของWelpanoด้วย ปรากฏว่าใช้ดี ไม่แพ้ และชอบที่มีSPF สูง เราทำงานหน้าจอคอมก็มีแสงสีฟ้าจากหน้าจอ อันนี้ก็ช่วยปกป้องผิวได้ดีนะ เพราะสังเกตจากเวลาพักเที่ยง จะเดินไปทานข้าวกับเพื่อนๆก็มีแดดจ้า แต่หน้าไม่หมอง เพราะกันแดดช่วยได้มากนะ 

   ส่วนช่วงที่สิวยุบลงหมดแล้ว สิวใหม่ก็ไม่ค่อยขึ้น ดีใจๆมาก เราก็ใช้ Smooth Scar มาทาตรงรอยสิว ทาก่อนนอนเป็นอันดับสุดท้าย

   ช่วงกลางวันเวลาไปทำงาน ก็ชอบใช้แผ่นแปะสิวNexcare แปะเพื่อดูดซับหนองออกจากสิว ก็ช่วยได้ดีทีเดียว แต่ซีนไม่แปะทั้งวันนะคะเพราะกลัวจะอับ 

   เราทานอาหารเสริมช่วยฟื้นผิวด้วย อย่างละ1เม็ด หลังอาหารเช้า  ก็มี Vistra Acerola cherry เป็นวิตามินซีที่ได้จากธรรมชาติ และ Blackmore Bio Zinc ช่วยลดการอักเสบของสิว 

   ใช้วิธีการดูแลผิวด้วยผลิตภัณฑ์ตามนี้ ตั้งแต่19 พฤศจิกา 59 มาจนถึงวันนี้ ก็เกือบครบ 3เดือนเต็ม ดูพัฒนาการตามภาพได้เลยค่ะ เราอยู่ในกฏเกณฑ์ตลอด ทั้งควบคุมเรื่องอาหารการกิน พยายามหลีกเลี่ยงอาหารก่อสิว พยายามซักปลอกหมอนทุกอาทิตย์  แล้วใช้ผลิตภัรฑ์อย่างต่อเนื่องมีวินัยมาก เพราะรอบนี้เอาจริงสุดๆ  ตอนนี้เราเหลือแค่รอยแดงนิดหน่อย  แค่นี้ก็สบายใจมากแล้วค่ะ เลยมาเขียนแบ่งปันเพื่อนๆ  สู้ๆค่ะทุกคน  ใครที่กำลังท้อใจ เราขอเป็นกำลังใจให้นะคะ

 .

.

.

.

.

***************เรื่องที่ 2 **************  

          สวัสดีค่ะ ชื่อเล่น จ๋า นะคะ  วันนี้มีผิวดีขึ้นมากๆ จ๋าเลยอยากเขียนรีวิวแบ่งปันประสบการณ์ที่จ๋าเลือกดูแลผิวด้วยตัวเองจากปัญหาผิวที่เกิดขึ้นจริงที่ผ่านมาค่ะ  เผื่อจะเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆที่กังวลใจในเรื่องปัญหาผิวอันหนักหน่วงของตัวเอง หรือเพื่อนๆหลายคนอาจจะมีปัญหาผิวคล้ายกับจ๋า ค่ะ   

        เริ่มจากเป็นสิวมาตั้งแต่สมัยวัยรุ่นค่ะ เรียกได้ว่า สิวไม่เคยหายไปจากชีวิตเลย ผุดๆโผล่ๆมา กวนใจทุกวันจริงๆ จนกระทั่งเข้าสู่ชีวิตวัยทำงานเลยค่ะ ใครเคยพบปัญหาแบบนี้คงจะจิตใจห่อเหี่ยวเหมือนกันแน่ๆเลย จะขอเข้าเรื่องจากการ แพ้-พัง-พลาด ก่อนจะมามีผิวที่ดีขึ้นได้ขนาดนี้ถือว่า โชกโชนเลยทีเดียวค่ะ

แพ้ยา+...เนื่องจากเป็นสิวมานานมากดังนั้น จึงต้องแสวงหาทุกทางโดย การแพ้ครั้งนั้นจำได้ติดตา ตรึงใจเลยทีเดียวค่ะไป ร้านยาและได้ยาทานมาทาน หลังจากทานได้ไม่นาน มีอาการคันที่ใบหน้า และ สิวก้เห่อหนักมากๆๆ เศร้ามากๆค่ะตอนนั้น ได้แต่นั่งก้มหน้ายอมรับความจริง

หน้าพังขาดความมั่นใจ++...พออาการเห่อหนักมากขึ้นเราก็พยายามหาสิ่งที่คิดว่าจะช่วยแก้ปัญหาให้เราได้ ไม่ว่าจะเป็นทานยาคุมปรับฮอร์โมน อาหารเสริม แต่ผลลัพธ์ไม่ต่างจากเดิมเพราะอาการที่เป็นคิดว่าไม่น่าจะเป็นเพราะฮอร์โมน(เพราะยิ่งทานยิ่งเพิ่มขึ้น) และอีกส่วนคือชอบใส่แมส ส่วนหนึ่งเป็นคนที่ไม่มีความมั่นใจเลยในผิวหน้า อาชีพที่เราทำก็เสี่ยงโดนสารเคมีเพราะ เราต้องทำงานเกี่ยวกับช่างผม ทำสี ดัดผม ย้อมผม เลยต้องใส่แมสตลอดเวลา เหมือนว่าพอเรายิ่งใส่ยิ่งจะทำให้สิวเกิดการอุดตันมากขึ้น

พลาดเพราะครีมหน้าขาว+++...หลังจากนั้น จ๋าคิดอะไรไม่ออกเลยไม่รู้จะไปพึ่งใคร จึงตัดสินใจลองครีมในอินเตอร์เน็ต แบรนด์หนึ่งบอกว่าจะช่วยให้หน้าขาวใส หลังจากใช้ได้เพียง 1-2 สัปดาห์ หน้าขาวขึ้นอย่างเห้นชัดเจนค่ะ แต่ สิวมาตรึม ขึ้นทุกแขนงของรูขุมขน ตามรูปที่ให้ดูเลยนะค่ะ แทบไม่มีที่ให้สิวขึ้นแล้ว เพราะขึ้นทุกที่จริงๆค่ะ ทั้งอุดตันทั้งติดเชื้อมีหนองมาเต็ม จริงๆค่ะ การพังครั้งนี้เป้นประสบการณ์ที่อยากจะเตือนใจใครหลายๆคนว่า อย่าลองในสิ่งที่พูดเกินความจริงว่า 3-5 วันหาย 7-10 เกลี้ยงหมดเลย มันไม่มีจริงค่ะ!!!

   รูปนี้คืออาการที่จ๋าเจอมาหลายปีค่ะ (ขาดความมั่นใจสุดๆ) อย่าตกใจนะค้า เรื่องที่พบเจอคือเรื่องจริงที่อยากจะมาแชร์ให้คนที่มีปัญหาแบบเราค่ะ

   จนกระทั่งล่าสุด จ๋าได้พยายามค้นหาการดูแลผิวด้วยตัวเองจนประสบผลสำเร็จ(แต่ก่อนหน้าจะดีแบบนี้ ก็ไปคลีนิคมาแล้วนะค่ะ พอหยุดยาก็ขึ้นเหมือนเดิมเลยค่ะ ในใจคิดว่าโดนเลี้ยงไข้รึเปล่านั้นนะซิ+++) โดยเน้นผลการที่รักษาแบบปลอดภัย และ ค่อยๆดีขึ้นตามลำดับโดยใช้มานานประมาณ 2 เดือน ไม่ว่าจะเป็นการติดเชื้อ และการอุดตัน รวมถึงรอยสิว ดีขึ้นชัดเจนมากๆๆๆๆๆ ( ตามภาพนี้เลยค่ะ)]

รูปนี้4-6สัปดาห์ แอบมีความหวัง เลิกปิดแมสได้แล้วค่ะเพราะสิวอักเสบเริ่มยุบ

รูปนี้ 2 เดือน แบบว่าเวลาที่เรารอมันคุ้มค่ามากๆ คนชมว่าดีขึ้นเยอะมากๆ ลูกค้าที่เข้ามาทำผมก็รู้สึกว่าเราสวยขึ้นเราแนะนำทรงอะไรเค้าก็จะทำตามที่เราแนะนำ เพราะผิวที่ดีทำให้มีความเชื่อมั่น ได้ทั้งทรัพย์ทั้งผิวที่ดี+++

สรุปผลิตภัณฑ์ที่เราใช้ทั้งหมด ตามนี้ค่ะ

1.Welpano Extra Sensitive  Lotion Cleanser

2.Acne aid สบู่เหลวล้างหน้า ขวดสีแดง

3.Provamed Acne Gel Cleansing

4.Welpano Cream-Gel

5.Scar Gel

6.Welpano Acne Gel

7.Welpano Facial Sunscreen SPF50 PA+++

8.Eucerine Cover Stick

9.Nozoral Shampoo

อาหารเสริมที่กินร่วมด้วย มี 1 อย่าง

10.Mega Zincomin

วิธีใช้ อย่างละเอียดตามนี้ค่ะ

1.Welpano Extra Sensitive  Lotion Cleanser   

-ใช้เช็ดหน้าก่อนล้างหน้าเช้าและเย็น โดยจะกดมา 4-5 กดแต้ม 5 จุดบนใบหน้าและนวดให้กระจายทั่วใบหน้า และใช้สำลีที่รีดขอบไม่เป็นขุยเช็ดออก ถือว่าเด็ดมาก เพราะสิวที่จ๋าเป็นนั้นส่วนใหญ่เป็นสิวอุดตัน จะหลุดออกมาชัดเจนและบางจุดก็จะแห้งและค่อยๆหายไป ฟิลลิ่งหลังเช็ด รู้สึกว่าผิวหน้าจะนุ่มขึ้นและการอุดตันลดลงอย่างชัดเจนมากๆ และ ไม่มีน้ำหอม พาราเบน ถือว่าเป็นคลีนเซอร์ที่ได้ใจไปเลยค่ะ

2.Acne aid สบู่เหลวล้างหน้า ขวดสีแดง

-ใช้ล้างหน้าตอนเย็น ที่จ๋าเลือกที่จะใช้ล้างตอนเย็นเพราะ ในระหว่างวันเราพบเจอสารเคมี อีกทั้งฝุ่นและเส้นผม และหน้าที่เยิ้มจากการทำงาน พอได้ล้างด้วย acne aid แล้วรู้สึกว่าเกลี้ยงไม่ลื่นเป็นคราบค่ะ

3.Provamed Acne Gel Cleansing

-ใช้ล้างหน้าตอนเช้า ถือว่าเป็นล้างหน้าที่โอเคมากเลยอีกรายการเพราะ บางครั้งจ๋าใช้ acne aid ตอนเช้าแล้วมีความรู้สึกว่าหน้าจะแห้งตึงเกินไป การที่ได้เจอล้างหน้า provamed ตอบโจทย์มากในแง่ผิวที่ต้องเริ่มงานในตอนเช้า 

4.Welpano Cream-Gel

-ใช้ทาทั่วหน้าหลังล้างหน้า เช้าและเย็น คืออยากจะบอกว่ามันดีมากๆค่ะ เน้นเลยค่ะว่ารอยแดง รอยดำสิวหายเร็วมาก เป็นสิ่งที่หายากมากที่สุดในรายการอื่นๆเลยค่ะ จะหาครีมที่เหมาะกับคนที่แพ้ง่ายเป็นสิว ไม่ใช่จะหากันง่ายนะค่ะ คือตอบโจทย์มากในแง่ คุมความมัน รู้สึกไม่เหนอะหนะ และ อ่อนโยนซึมง่ายมากๆ ทาได้ทุดจุดจริงๆค่ะไม่ทำให้อุดตันเลย ไม่มีสี ไม่มีกลิ่น และ น้ำหอม ไม่รู้จะพูดยังไงคือมันดีงามสำหรับคนเป็นสิวจริงๆค่ะ ทำให้มั่นใจมากมากขึ้นเพราะหากใครเป็นสิวมีรอยคงจะต้องรู้สึกเหมือนจ๋าแน่ๆเลยคะ ใช้สัก 4 สัปดาห์ รู้เลยค่ะว่ารอยจางลง ผิวแข็งแรง ไม่มีสิวใหม่ขึ้นเลย

5.Scar Gel

-ทาหลัง Welpano Cream-gel เฉพาะจุดที่มีรอยเยอะๆ เช้าและเย็น อันนี้ก็เป็นอีกอย่างที่รู้สึกดีมากค่ะเพราะ เจลซึมเร็วและในจุดที่ต้องการย้ำที่มีรอย ใช้คู่กับครีมเจลแล้วรู้สึกจางลงเร็วมากๆ+++  

6.Welpano Acne Gel

-ใช้แต้มสิว อักเสบและสิวที่เป็นหนอง อันนี้ต้องบอกเลยค่ะว่าจากที่เล่ามา จ๋าลองมาเยอะมากค่ะ แต่แต้มสิวตัวนี้แต้มแล้วยุบเร็วมากค่ะเมื่อเปรียบเที่ยบกับเจลแต้มตัวอื่น หรือเราดื้อยาตัวอื่นแล้วก็ไม่รู้ค่ะ เพราะเป็นสิวเยอะมากเลยโบกเกือบทั้งหน้าทุกวัน 2 สัปดาห์สิวเก่าแห้งเลยค่ะ ที่นูนๆแดงๆเป็นไตๆเป็นสิวไม่มีหัว สิวอุดตัน หรือสิวหัวหนอง บอกได้คำเดียวเอาอยู่ค่ะ

7.Welpano Facial Sunscreen SPF50 PA+++

-ทาหลังแต้มสิวแห้งแล้วตอนเช้าทั่วใบหน้า คือมันเป็นอีกหนึ่งอย่างที่คนเป็นสิวจะงมหากันให้วุ่ยเลยค่ะ เพราะไม่มันเยิ้มก็อุดตันค่ะ แต่รู้สึกว่ากันแดดตัวนี้ ไม่มัน ไม่แหอะหนะ คุมอยู่ทั้งวัน เพราะที่เคยใช้มาพอตกบ่ายมา ไขมันบนหน้าแทบจะทอดไข่ได้เลย อีกอย่างค่ะหน้าจ๋าเป็นรอยเยอะ แต่พอได้ใช้คู่กับบำรุงแล้วถือว่าเนียนดีมาก   หน้าไม่วอกค่ะ     

8.Eucerine Cover Stick

-ช่วงที่กำลังรักษาหน้าอย่างจริงจัง เรางดรองพื้น งดบBBทุกชนิด แต่ช่วงที่ต้องออกงานจำเป็นต้องแต่งหน้าแล้วสิวยังไม่ยุบดี จ๋าใช้Eucerine Cover Stick แต้มๆเฉพาะตรงสิวบางจุดเท่านั้น แต่ไม่ได้ใช้ทุกวันนะคะ แต้มจุดที่เป็นรอยสิว และสิวที่ยังไม่หายสนิท ตอนเช้า บอกได้เลยค่ะว่า มันคือสิ่งที่สร้างความมั่นใจให้เราเพราะปกปิดได้ดีมากมากค่ะ.

แต่ตอนนี้สิวแห้งสนิท รอยก็จางแล้วค่ะ เลยไม่ต้องหาตัวช่วยปกปิดแล้วค่ะ ไม่กังวลใจแบบเมื่อก่อน 

9.Nozoral Shampoo

-ใช้สระผม สัปดาห์ละ 3 ครั้ง โดยจะสระทิ้งไว้ 5-10 นาที อันนี้จ๋าได้รับคำแนะนำเพิ่มจากร้านยา เพราะว่าเรามีผดเยอะเลยลองทำตามดูถือว่าโอเคเลยทีเดียวค่ะ

10.Mega Zincomin

-ทาน 1 เม็ดหลังอาหารเช้าและเย็น เป็นอาหารเสริมเดียวที่ทานอยู่ อันนี้ได้รับคำแนะนำจากเภสัชมาให้ทาน เพราะตอนนั้นเค้าเห็นเราเป็นเยอะค่ะ ทานแล้วจะช่วยบำรุงผิว สิวแห้งลงเยอะ บำรุงเล็บ-ผมด้วยค่ะ  ตรงประเด็นที่ต้องการเลย

   ทั้งหมดที่ร่ายมาจะยาวหน่อยนะค่ะแต่คิดว่า จะเป็นแนวทางที่ดีมากเลยค่ะในการช่วยคนหัวอกเดียวคน ให้วงจรสิวจากเราไปเสียที ทั้งหมดนี้จ๋าใช้มานาน 6-8 สัปดาห์ค่ะ โดยสิวค่อยๆลดปริมาณจนหายและเหลือแต่รอยในช่วงสัปดาห์ที่ 5-6 หลังจากนั้น ก็จะมาใช้แค่โลชั่น-ล้างหน้า-บำรุง-กันแดด-ลดรอย และอาการก็ดีขึ้นเรื่อยตามลำดับจริงๆค่ะ ทุกวันนี้ไปไหนมาไหน ได้อย่างสบายใจ ทำให้มีความมั่นใจไม่ว่าจะเป็นการพบป่ะคุยงาน การทำงานที่ต้องเจอผู้คนมากมาย แม้จะมีสิวขึ้นบ้างประปรายแต่รู้สึกว่าดีขึ้นกว่าเดิมและคิดว่าจะดีขึ้นกว่าเดิมในอนาคตค่ะ

   จึงขอให้คนที่เป็นสิวเหมือนกันได้สู้และอย่าได้ยอมแพ้นะคะ เพราะผิวพรรณถือเป็นบุคลิคที่ดีสามารถทำอะไรได้หลายอย่างจริงๆค่ะ เงิน งาน ความน่าเชื่อถือ ความมั่นใจกลับคืนมาค่ะ.....กลับมาหลงรักผิวของตัวเองอีกครั้ง ทำให้กล้าเซลฟี่ กล้าส่องกระจกค่ะ 

.

.

.

.

.

 

***************เรื่องที่ 3 ************** 

สวัสดีค่ะ...อาจจะอธิบายไม่ค่อยจะเก่งนะค่ะ แต่เราอยากจะมาแบ่งปันประสบการณ์ เพื่อเป็นตัวอย่างที่บางคนอาจจะพบเจอปัญหาแบบเดียวกัน และเป็นทั้งอุทาหรณ์ในการใช้ผลิตภัณฑ์ตามกระแส ขอเข้าเรื่องเลยนะคะ นี่คือปัญหาที่เป็นค่ะ มาทุกที่ ที่สิวสามารถขึ้นมาอยู่บนใบหน้าเลยก็ว่าได้ค่ะ 


  อย่าเพิ่งตกใจกันนะคะ ขอระบายนิดนึงคร่าา เริ่มจากที่เราใช้ผลิตภัณฑ์เยอะมาก เรียกได้ว่าอะไรดี อะไรโดน ใครว่าดีจัดมาหมดไม่เหลือค่ะ เรียกได้ว่า ผู้หญิงก็ต้องอย่าหยุดสวย เราก็ไม่หยุดที่จะสรรหาสิ่งที่คิดว่าดี คิดว่าใช่มาใช้ *--------*


   เริ่มจากที่หลังจากที่คิดว่าเราใช้อะไรมามากมายตลอดเวลา เลยคิดที่จะหยุดพักหน้าบ้างอะไรบ้าง หลังจากที่หยุดใช้ สิ่งที่ไม่คาดคิดก็บังเกิด สิวเริ่มขึ้นจากบริเวณรอบปาก จากนั้นก็ลามมาบริเวณแก้ม จนถึงจุดพีค คือ ที่คางตามเลยค่ะ
   อาการสุดบรรยายจริงๆค่ะ เพราะคัน ปวด แสบ ใต้ผิวหนังมากๆๆๆ มันเป็นไตไต อยู่ใต้ผิวหนัง และเหมือนจะติดเชื้อมีหนองด้วยค่ะ บางครั้งก็ต้องกดบ้างเพราะบวมเป่งไม่ไหวจริงๆค่ะ มือนี่แทบอยากจะมาเกาตรงสิวตลอดเวลาเลยค่ะ ทั้งหมดเกิดขึ้นภายใน 1 เดือน


   ประเด็นอยุู่ที่ งานที่ทำ เราจำเป็นต้องแต่งหน้า เอาง่ายคือต้องใช้ผิวหน้าในการประกอบอาชีพจ้า หลายครั้งที่รับงานเดินแบบ ดังนั้นหน้าตาก็สำคัญมากที่เดียว  และปกติจะเดินทางบ่อยค่ะ จะโดนน้ำ ตจว. เล่นงานบ่อยด้วยค่ะ การเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น เราคิดว่าใครๆที่เป็นแบบนี้จะเข้าใจเป็นอย่างดี คือ อายมาก ไม่กล้าเจอหน้า เพื่อนร่วมงานหรือแม้กระทั่งแฟน กลัวโดนทักค่ะ TT ไม่กล้าสบตาใคร 


   จนถึงจุดที่ต้องบอกตัวเองว่าไม่ไหวแล้วนะ ต้องทำอะไรซักอย่าง งานก็ต้องทำ หน้าก็ต้องรักษา ในใจก็จำแม่นเลยค่ะว่าถ้ากลับไปแบบเดิมที่ 7 วันหาย หน้าใส ไร้สิว จุดจบก็เป็นแบบเดิมอีก ใครที่ถึงจุดนี้เหมือนกันบ้างไหมค่ะ ร้อนรนมากๆค่ะ อีกใจนึงก็จะทำยังไงให้หายให้เร็วที่สุดที่ไม่ต้องพบเจอแบบเดิมๆ เลยเกิดความคิดมา 2 แบบค่ะ


1.ไปหาหมอ แต่ก็กลัวโดนเลี้ยงไข้ เพราะเคยโดนมาแล้วแบบว่าแพงสุดๆเลยค่ะ ตอนหาดี...ตอนหยุดกลับมาเป็นเหมือนเดิม        
2.ศึกษา-ถามผู้รู้ผู้เชี่ยวชาญ รักษาเองและหาวิธีรักษาที่คิดว่าเหมาะสมกับเรามากที่สุด โดยจะเลือกเวชสำอาง และสกินแคร์ที่เห็นว่าราจะใช้ได้......แล้วไม่แพ้ ข้อนี้สำคัญมากก><


   เอาล่ะ!! อินเนอร์มาเต็มค่ะ เลือกแบบที่2 เพราะไม่อยากถูกเลี้ยงไข้ หลังจากนั้นก็เริ่มศึกษาข้อมูลแต่ละแบรนด์โดยถามว่ากลัวมั้ย กลัวค่ะ...กลัวโดนหลอกอีก 
   มาชมภาพที่เรารักษามาโดยใช้เวลาประมาณ 4-5 เดือนค่ะ จะให้ชมทั้งหมด......เก็บภาพไว้ทุกมุมเลยค่ะ

รูปผิวหน้า.......ข้างด้านซ้าย

รูปผิวหน้า......แบบหน้าตรง

รูปผิวหน้า........ข้างด้านขวา

...............มาดู สิ่งที่ใช้ในการรักษาครั้งนี้นะคะ..................
1.Welpano Extra Sensitive  Lotion Cleanser
2.Welpano Facial Liquid Cleanser
3.น้ำเกลือ
4.Clinda-M
5.Welpano Cream-Gel
6.Mederma gel 
7.Welpano Acne Gel
8.Welpano Facial Sunscreen SPF50 PA+++

วิธีใช้ 

1.Welpano Extra Sensitive  Lotion Cleanser
วิธีใช้ : ปั้มโลชั่นลงบนสำลีครั้งละ 4-5 ปั้ม แล้วแตะที่หน้า 5 จุด เกลี่ยทั่วใบหน้า แล้วกดสำลีเบาๆเช็ดออกไปในทางเดียวกัน สามารถเช็ดเครื่องสำอางได้สะอาด เช็ดรองพื้นได้หมดเกลี้ยง และช่วยให้สิวอุดตันหลุดง่ายขึ้นด้วยค่ะ เพราะส่วนตัวจะเป็นคนที่ต้องแต่งหน้า ดังนั้นจะเป็นคนค่อนข้างกังวลในเรื่องการทำความสะอาดค่ะ ที่สำคัญผิวจะนุ่มขึ้นชัดเจนเลยค่ะ

2.Welpano Facial Liquid Cleanser
วิธีใช้ : ใช้ครั้งละ 1-2 ปั้ม ต่อการใช้ 1ครั้ง ผสมน้ำเล็กน้อย ฟอกให้เกิดฟอง แล้วฟอกหน้า ล้างออกด้วยน้ำเปล่าค่ะ อันนี้ได้ยินชื่อเสียงมานานว่าอ่อนละมุน ไม่แสบตา และแห้งตึง ไม่มีส่วนผสมของ น้ำหอม / แอลกอฮอล์ ไม่มีสาร SLS ครั้งแรกก่อนใช้รู้สึกว่าจะจริงหรอ แต่มันก็จริงตามที่เลื่องลือจริงๆค่ะ ทำให้ไม่ระคายเคืองสิว ชอบมากที่จุดนี้แหละค่ะ


   ขอเสริมอีกนิดค่ะ พอดีเราจะมีปัญหาเรื่องแพ้น้ำ ที่แปลกที่ ไม่ว่าที่ไหนก็ตามที่เราไม่คุ้นชิน เช่น เดินทางไปเที่ยว ไปทำงานต่างที่ ร่วมด้วย อันนี้สำคัญมาก******* ติดดอกจันทร์ 10 ดอก****** แนะนำให้ใช้น้ำดื่มหรือน้ำกรองล้างหน้าเวลาเดินทางไปเที่ยว หรือที่อื่นๆที่เราไม่ได้อยู่ประจำ 

3.น้ำเกลือ
วิธีใช้ : เช็ดหลังล้างหน้า ให้ทั่วไปหน้า อันนี้ยอมรับก่อนเลยค่ะว่าไม่เคยลอง แต่เห็นรีวิวเยอะมาก ทนไม่ไหวลองใช้ดู ใช้แล้วดีนะคะ สิวแห้งลง และ ประหยัดงบด้วยค่ะ ใช้แทนโทนเนอร์ได้ดีมากทีเดียว

4.Clinda-M
วิธีใช้ : ใช้ทาบริเวณที่เป็น สิวติดเชื้อ หนอง อักเสบ เช้าและเย็น หลังเช็ดด้วยน้ำเกลือ ครั้งแรกตอนแต้มจะแสบหน่อยนะค่ะ แต่ก็ถือว่าดีทีเดียวเพราะ สิวหนองยุบและแห้งลงเร็วค่ะ ไปซื้อที่ร้านยา เภสัชเลยแนะนำมาคะ

5.Welpano Cream-Gel
วิธีใช้ : ใช้ทาทั่วใบหน้า หลังล้างหน้า เช้าและเย็น อันนี้เป็นบำรุงและลดรอยในตัวเดียวกันที่ชื่นชอบที่สุดตั้งแต่ใช้ครีมบำรุงมาเลยก็ว่าได้ค่ะ ซึมไวมากถึงมากที่สุดค่ะ รอยแดงและอักเสบที่เห็นเยอะๆ หายเร็วมากค่ะ เมื่อเทียบกับบำรุงอื่นที่ใช้มา ชนะเลิศ ค่ะ ไม่มีสี ไม่มีกลิ่น และ น้ำหอม คือต้องยอมให้ค่ะ ทำให้ผิวกลับมาปกติได้อีกครั้งเพราะครีมเจลนี้เลย ที่สำคัญ++รู้สึกว่า ผิวแข็งแรงขึ้นมากเลยค่ะ 

6.Mederma gel 
วิธีใช้ : ใช้ทาเฉพาะจุดที่มีรอยเข้มมากๆ ทาทับครีมเจลข้อ3ได้เลย  เน้นๆๆๆๆ รอยดำรอยแดง ซึมไม่ไวเท่าครีมเจลเวลพาโน่ แต่ไม่     ก็ถือว่าโอเคค่ะ เพราะไม่เหนอะหน่ะ ที่สำคัญรอยจางลงชัดเจนค่ะ

7.Welpano Acne Gel
วิธีใช้ : ใช้แต้มสิว อักเสบและสิวที่เป็นหนอง บางครั้งใครที่เคยเป็นเหมือนกันคือ เจอปัญหาจะหายาทาสิวดีดีซักตัว แต่หายากหาเย็น คือ อารมณ์ประมาณว่า ลองมาแล้วแต่สิวก็ไม่ยุบสักที่ โดยเฉพาะไตไต บวมๆ ทรมานมาก พอได้ใช้อันนี้แต้มจะรู้สึกยุบยิบ(แอบสะใจ) เหมือนยากำลังออกฤทธิ์ แล้วก็ค่อยหายไป แต่ที่ดีงามคือ สิวอักเสบ หนอง ไตไต มันยุบจริงๆค่ะ 

8.Welpano Facial Sunscreen SPF50 PA+++
วิธีใช้ : ทาทั่วหน้าตอนเช้า ดีงามมากเพราะสามารถแต่งหน้าต่อได้โดยไม่เยิ้มเลย เพราะเราซีเรียสกับผิวที่ระหว่างวันกันแดดมักจะเยิ้มแต่อันนี้ถือว่าคุมความมันได้ยอดเยี่ยมจริงๆค่ะ แต่ไม่ได้ทำให้หน้าแห้งลอกนะคะ คือพอดีๆอ่าค่ะ แล้วก็ไม่มีแอลกอออล์ น้ำหอม พาราเบน และยังไม่มีซิลิโคนที่ก่อให้เกิดการอุดตัน เหมาะกับผิวแพ้ง๊าย ง่ายอย่างเราเลย ขอแค่เราไม่มีอุดตัน ผิวก็จะกระจ่างใสขึ้นมาเองเลยค่ะ ไม่วอกด้วย ไม่ต้องลงเบสหรือไพรเมอร์เลยค่ะ สบ๊ายยยยอีก 

ทั้งหมดที่แนะนำมานี้ บอกกันตรงๆเลยนะค่ะว่า ใครไม่เป็นไม่รู้จริงๆ อดทน สู้ และ ทุกสิ่งจะผ่านพ้นไปได้ค่ะ ขอเป็นกำลังใจให้กับคนที่มีปัญหา อย่ายอมแพ้ เพราะคุณอาจจะไม่รู้เลยว่าผิวที่ดี เพิ่มบุคลิกภาพ ทำให้น่าเชื่อถือ ทำให้เป็นหน้าเป็นตา สร้างชื่อเสียงให้แก่เราค่ะ ถ้าหาก......มัวแต่ท้อแท้สิ้นหวัง หดหู่ หรือพูดบ่นว่าใช้มาหมดแล้ว อาย ไม่มั่นใจ ลบออกไปได้เลยค่ะ มีคำเดียว คือ สู้สุดใจเท่านั้น ปัญหาผิวจึงหาย และกลับมาดีแบบวันนี้ ค่ะ  

.
.
.
.
.
***************เรื่องที่ 4 **************

   สวัสดีค่า  เราชื่อ แนน นะคะ วันนี้แนนมีผิวที่แข็งแรงขึ้นอย่างชัดเจนมากๆ เลยอยากทำรีวิวนี้ขึ้นมาแบ่งปันเพื่อนๆ เพราะเป็นความฝันของแนนเลยว่า ถ้าวันนึงปัญหาผิวที่แนนเคยกังวลใจมานานมากกกก แล้วหายได้ แนนจะจัดรีวิวเต็มรูปแบบเลย และในที่สุดวันนี้ก็มาถึงค่ะ

^____________________________________________^  

เพราะที่ผ่านมานั้นแนนได้ลองผิดลองถูก กับการดูแลผิวด้วยผลิตภัณฑ์ต่างๆมากมาย  ทั้งคนรู้จักแนะนำ ทั้งรีวิวที่ใครว่าอะไรดี แนนลองมาหมดแล้ว ด้วยความที่เราอยากหาย  เราก็พร้อมจะซื้อมา หมดเงินแพงเท่าไรเราก็ยอมจ่าย เพื่อให้ผิวดีขึ้น แต่ทุกอย่างที่แนนเคยใช้มา ไม่มีอะไรที่จะช่วยฟื้นผิวให้ดีขึ้นได้เลย  แต่ด้วยความที่แนนไม่ท้อ เพราะคิดว่าวันนึงผิวเราจะดีแบบคนอื่นได้ เราเลยมาพบกับการดูแลผิวที่ถูกต้อง อ่อนโยน ปลอดภัย แนนเลยมีวันนี้ และเชื่อว่าท่านอื่นๆก็จะมีผิวดีขึ้นได้ค่ะ เผื่อใครมีปัญหาผิวคล้ายๆกับแนน จะได้ลองนำไปปรับใช้กันเนอะ
    พื้นฐานผิวของแนน ปกติแนนมีสิวผด มีผื่นประปรายผสมกับสิว   อุดตัน เพราะแนนทำงานออฟฟิต แต่ก็ต้องมีเดินเข้าไปในไลน์ผลิตของโรงงาน ก็เจอฝุ่นทุกวัน อดไม่ได้ที่จะมีสิวขึ้น แต่ก็ไม่เป็นมากอะไรนะคะ แต่พอมาใช้ครีมยี่ห้อนึงต่อเนื่องมาประมาณ เกือบ 1 ปีหลังจากที่ใช้หน้าก็ดีขึ้นในระดับนึงค่ะ แต่…พอมาช่วงนึงที่แนน      ขี้เกียจทาครีม เริ่มใช้บ้างไม่ใช้บ้าง เหมือนหน้าดีขึ้นแล้วก็ไม่คิดอะไร แต่ดันมาแสดงอาการตอนนี้แหละ มีอาการคันแห้งลอก แล้วหนักสุดๆ คือ แดงทั้งหน้า แบบหน้ากลัวมาก แดงๆ แห้งๆ เป็นหย่อมๆ น่ากลัวยิ่งกว่าคนที่เป็นสิวอีกนะคะ เพราะที่แนนเป็นทรมานมาก แสบหน้ามากๆๆๆเหมือนโดนกรดแรงๆอ่ะค่ะ   ตามภาพค่ะ

 

    +++ หน้าพังลอก ++แสบหน้าราวกับว่าโดนความร้อนอังหน้าตลอดเวลา++  คันยุบยิบ ++ เห่อแดงทั้งหน้า ++ แห้งเป็นหย่อมๆ++ ลอกเป็นขุยๆ+++
   พออาการแบบนี้เริ่มแผลงฤทธิ์ออกมาให้เราเห็น แนนก็รู้สึกขวัญเสีย นะคะบอกตามตรง หลังจากนี้ก็เครียดหนักมาก เลยไม่รู้จะทำยังไง หันทางขวาก็เจอทางตัน หันทางซ้ายก็ตัน เลยตัดสินใจลองปรึกษาหมอค่ะ แล้วได้ยาทั้งยากินแก้คัน-ยาทา ก็หายนะคะ หาหมอต่อเนื่องอยู่ประมาณ 2 เดือน พอคิดว่าหายดีแล้ว เลยหยุดหาหมอค่ะ เพราะแนนไม่ได้ทาครีมบำรุงอะไรเลย ทาแต่ยา แต่พอหยุดยา………หน้าก็เป็นแบบเดิม

ภาพนี้.....เป็นช่วงแรกที่หาหมอแล้วหน้าดีขึ้นนะคะ

รูปหลังจากหยุดยาหมอ ปัญหาผิวเดิมๆก็กลับมาอีก เลยเป็นเหตุผลที่อยากหาอะไรที่ช่วยให้ผิวแข็งแรงแบบถาวรค่ะ 

   ช่วงที่หยุดหาหมอก็เข้า Google อ่านๆวิธีรักษา ไปเจอเจลว่านหางจระเข้ยี่ห้อนึง กับครีมกันแดด ซึ่งมีตัวแทนอยู่ในจังหวัดใกล้กับเรามาก เค้าแนะนำเราดีนะคะ  เราเลยลองใช้ดูมาสักระยะนึง แต่พอทาแล้วก็แปลกใจแสบหน้ามากขึ้น เลยตัดสินใจหยุดใช้  กลับมาเครียดอีกครั้ง


โอ๊ยยย.......อะไรจะซวยซ้ำซวยซ้อน นึกท้อในใจ T-----T 
เลยคุยกับเพื่อนสนิทว่า ทำไงดีน้อออ!!  เพื่อนก็แนะนำว่าเพจนี้น่าสนใจมาก และสินค้าก็น่าใช้เลยลองกดติดตามเพจเพื่อดูรีวิว และลองทำตามคำแนะนำ  จากนั้นก็แอดไลน์ @welpano  (มี@นำหน้าด้วย) แอดไปหาพี่วิวและเริ่มปรึกษาค่ะ พี่วิวให้คำแนะนำดีมากและใส่ใจในทุกๆ รายละเอียดของใบหน้าจริงๆ กล้าบอกเลยว่าไม่ผิดหวังค่ะ ไม่ได้อวย แต่ผิวเราดีขึ้นจริงๆเลยอยากบอกต่อจากใจจริงๆค่ะ เพราะเข้าใจเลยว่าวันที่ปัญหาผิวมาเยือน บางครั้งเครียดมาก เผื่อหลายคนจะมีทางออกแบบแนนนะคะ 


สำหรับการดูแลผิว ในแบบฉบับของแนน มีดังนี้ค่ะ 
1. Welpano lotion cleanser
2. Physiogel daily moisture therapy dermo-cleanser 
3. Welpano facial liquid cleanser
4. Welpano cream-gel
5. Physiogel AI cream 
6. Welpano facial sunscreen SPF50 PA+++
7. Aloe vera skinter guard 
8. Fenistil gel 
9. NAT E 400IU  Mega We Care    
   

ทั้งหมดนี้ เป็นไอเทมที่แนนสัญญากับตัวเองเลยว่า จะใช้แบบนี้ไปตลอดชีวิต เพราะเจอที่ใช่ ที่ปลอดภัย แล้วช่วยปลอบประโลมผิวของเราได้จริงๆ ไม่คิดเปลี่ยนใจไปลองโน่นนี่นั่นแล้ว เพราะเข็ดมากคร่าาาา

     สำหรับขั้นตอนก่อนล้างหน้า ไม่ว่าจะเป็นวันที่แต่งหน้าไปทำงาน หรือว่าวันที่ไม่แต่งหน้าก็ตาม แนนจะใช้ Welpano lotion cleanser นวดๆที่หน้าให้ทั่ว แล้วใช้สำลีแผ่นเช็ดออก เช็ดขณะที่สำลีแห้งนะคะ จะมีสิ่งสกปรกมากมายติดออกมากับสำลีแผ่น เวลาเช็ดจะมีสิวอุดตันหลุดติดสำลีมาด้วย  แนนชอบโลชั่นคลินเซอร์นี้ตรงที่ ไม่อุดตัน ให้ความชื้นผิว แต่ไม่เหนอะเลยค่ะ เหมือนผิวได้เติมน้ำขณะเช็ด สัมผัสได้ว่า หลังเช็ด หน้าจะนุ่มมากเลย  

   ถัดไปเป็นการล้างหน้า ขั้นตอนนี้สำคัญมากเลยนะคะ เพราะเป็นการทำความสะอาดผิวทุกวัน ทั้งเช้า-เย็น แนนจะใช้ Physiogel daily moisture therapy dermo-cleanser สลับกันกับ Welpano facial liquid cleanser ทั้ง2แบรนด์นี้ คงความอ่อนโยนได้เหมือนกันค่ะ แต่เมื่อใช้ของWelpanoจะรู้สึกลื่นๆผิวน้อยกว่า physiogel ค่ะ เลือกใช้เพราะทั้ง2ยี่ห้อ ไม่มีส่วนผสมของalcohol น้ำหอม ไม่มีส่วนผสมของสารSLS ที่ระคายผิว เพราะผิวของแนนค่อนข้างบอบบาง แดงง่าย แพ้ง่ายมาก ใช้พวกสบู่ก้อนไม่ได้เด็ดขาด เพราะเคยใช้อยู่ครั้งนึง ตอนนั้นตึงหน้ามาก แสบหน้า  เข็ดไปอีกนาน

   ขั้นตอนการบำรุงหลังล้างหน้า อันดับแรกแนนใช้ Welpano cream-gel ทั้งเช้า-ก่อนนอน เป็นครีมกึ่งเจลใส ซึมสู่ผิวไว ไม่เหนอะผิว ให้ความชุ่มชื้นไม่มากนัก  ช่วยบำรุงให้ผิวแข็งแรงขึ้น พร้อมส่วนผสมของไวท์เทนนิ่งสำหรับผิวแพ้ง่ายโดยเฉพาะ รอยแดงๆเลยจางลงชัดเจน ผิวที่เคยหมองจากที่ถูกครีมมีสารทำร้ายมา ก็กลับกระจ่างใสขึ้น เลยช่วยฟื้นบำรุงให้หน้าหมองๆ กลับใสขึ้นมา โดยไม่เกิดการแพ้  

   จากนั้น ทา Aloe vera skinter guard ให้ความชุ่มชื้นผิว และเป็นเจลว่านชนิด 100% ไม่มีส่วนผสมของน้ำหอม และแอลกอฮอล์ เป็นเจลว่านที่แนนใช้แล้วไม่แพ้ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นผิวในช่วงก่อนนอน 

   แต่ถ้าวันไหนรู้สึกหน้าแห้งมาก ในช่วงเช้าจะทา Physiogel AI cream ทาต่อจากWelpano cream-gel เพื่อให้ผิวชุ่มชื้น ไม่ลอกเป็นขุยๆ แต่ถ้าช่วงไหนที่ผิวไม่แห้งมาก เป็นเวลาที่อากาศไม่หนาว แบบนั้นผิวไม่ลอก แนนจะไม่เพิ่มมอยเจอร์ที่ผิว เพราะถ้าทาเยอะไปจะรู้สึกหน้ามัน เดี๋ยวสิวอุดตันจะถามหาค่ะ   

   สำหรับบริเวณที่คันยุบยิบ น่าจะเกิดจากผิวติดสารจากครีมเดิมมา  แนนจะเพิ่ม Fenistil gel ทาตรงบริเวณที่คันๆ โดยทาเช้าและก่อนนอน เป็นยาแก้คันที่ไม่มีส่วนผสมของสารสเตียรอยด์ค่ะ สามารถซื้อจากร้านยาได้เลยค่ะ 

   สำหรับการปกป้องผิวในตอนเช้า แนนใช้ครีมกันแดด Welpano facial sunscreen SPF50 PA+++ ตอนแรกเป็นปัญหาของแนนในการเลือกครีมกันแดดเหมือนกันนะ เพราะที่ผ่านมาแพ้ครีมกันแดด เลยมาจับจุดได้ว่า เราแพ้น้ำหอม แพ้พวกรองพื้น พอมาใช้กันแดดของWelpanoไม่มีส่วนผสมของเบส ไม่ผสมรองพื้น และไม่มีน้ำหอม-แอลกอฮอล์ เราเลยใช้ได้สบาย ไม่แพ้ ที่สำคัญเวลาเหงื่อออกไม่ไหลเป็นคราบขาวๆ ปลื้มที่สุดเลย SPF สูงถึง50 ปกป้องผิวได้ดี แถมไม่แพ้ค่ะ

                 +++ สรุป ลำดับการทาครีม ตอนหลังล้างหน้า  +++
….เช้า…..   Welpano cream-gel---> fenistil gel (เฉพาะตรงที่คัน) ---> Physiogel cream (เวลาหน้าแห้ง)--->  Welpano facial sunscreen
….เย็น…… Welpano cream-gel--->  fenistil gel (เฉพาะตรงที่คัน)--->  Aloe vera skinter guard--->  Physiogel cream (เวลาหน้าแห้งมาก) 

 

ส่วนอาหารเสริม แนนจะทาน NAT E 400IUของยี่ห้อMega We Care   เป็นวิตามินอีจากธรรมชาติที่ช่วยบำรุงให้ผิวชุ่มชื้นขึ้นค่ะ ทาน1เม็ดหลังอาหารเช้า ผิวแข็งแรงขึ้นด้วยค่ะ 

ผลลัพธ์ที่ใช้ เห็นผลต่อเนื่อง ดีตามลำดับชัดเจนเลยค่ะ แนนเลยอยากทำรีวิวอย่างละเอียดนี้ แบ่งปันเพื่อนๆ เพราะรู้เลยว่า เวลาที่หน้าพังหนัก เครียดขั้นสุดจริงๆ เพราะผิวหน้าคือ บุคลิคเลย เวลาที่หน้าแหกหน้าพัง ก็จะไม่มั่นใจเวลาไปทำงานพบเจอผู้คน ตอนนี้ยิ้มได้กว้างมากแล้วค่ะ มั่นใจในตัวเองมากขึ้นจริงๆ 

 

          รูป Before-After เทียบกันชัดๆเลย ผิวแข็งแรงขึ้นชัดเจน ผิวชุ่มชื้นขึ้นแบบไม่เหนอะไม่อุดตัน  ปื้นแดงๆก็หาย ไม่คันหน้ายุบยิบ ไม่แสบผิวแล้ว เหมือนสวรรค์มาโปรดจริงๆ   ขอจบรีวิวเพียงเท่านี้ก่อนนะคะ บะบายคร้าา   *---------------*

Like